หมอยืดอกรับผิด! ทำคนไข้เป็นเจ้าหญิงนิทรา ยันรักษาให้ถึงที่สุด

แพทย์เจ้าของคลินิกดัง และรพ.แถลงรับผิดชอบ กรณีคนไข้สาววัย 26 เข้ารักษาตัวกลับต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรากว่า 10 วัน วอนสังคมอย่าเพิ่งด่วนสรุปกล่าวโทษ ยันพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ ด้านพ่อ-แม่ผู้ป่วยตื้นตันใจให้สัมภาษณ์น้ำตาไหล มีความหวังเห็นลูกสาวฟื้น

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2559 นพ.ศราวุฒิ ตั้งศรีสกุล ผอ.รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี นพ.อภิชาติ วชิระปราการพงษ์ รอง ผอ.ด้านปฐมภูมิ ซึ่งเป็นเจ้าของสถานพยาบาล "สองพี่น้องโพลิคลินิก" และผู้เกี่ยวข้องได้เปิดแถลงข่าวที่ห้องประชุม ชั้น 4 ตึกอำนวยการ เกี่ยวกับกรณีที่เกิดจากความผิดพลาด ด้านการรักษาพยาบาลกับ น.ส.ชไมพร มดน้อย อายุ 26 ปี จนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา นอนไม่ได้สติมานานกว่า 10 วัน ภายในสถานพยาบาล "สองพี่น้องโพลิคลินิก" เลขที่ 209/15 ถนนบางลี่-หนองวัลย์เปรียง เขตเทศบาลเมืองสองพี่น้อง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับ นายไพฑูรย์ มดน้อย อายุ 45 ปี นางสดใส มดน้อย อายุ 43 ปี บิดา-มารดาของ น.ส.ชไมพร รวมทั้งญาติพี่น้องให้เข้าใจ

โดย นพ.ศราวุฒิ กล่าวว่า หลังรับคนไข้คือ น.ส.ชไมพร มาดูแลรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน (ICU)ทาง รพ.ก็ให้ความเป็นห่วงเป็นใยเหมือนกับญาติพี่น้องคนหนึ่ง ไม่เคยทอดทิ้งคนไข้ตามที่ญาติเข้าใจ อีกทั้งยังดูแลเอาใจเป็นกรณีพิเศษ ทั้งเรื่องค่ารักษาพยาบาล การใช้ยาฆ่าเชื้อชนิดพิเศษที่สั่งซื้อมาโดยเฉพาะ โดยมีทีมแพทย์ และพยาบาลจากหลายฝ่ายดูแลอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ช.ม. และมีการประเมินผล และรักษาตามอาการแบบวันต่อวัน ส่วนกรณีที่ญาติตั้งข้อสงสัยว่า ทำไม่ส่งตัวคนไข้ไปรักษาต่อที่ รพ.ศิริราช นั้นขอชี้แจงว่า ทาง รพ.ได้ประสานงานการติดต่อไปทุกวัน จนถึงตัวแพทย์เจ้าของคนไข้ที่ผ่าตัดกระดูกหลัง กล่าวรู้สึกเห็นใจ เพียงแต่ติดอยู่ที่ข้อจำกัดว่าเตียงไม่ว่าง เนื่องจาก รพ.ศิริราช เป็นโรงพยาบาลใหญ่ มีผู้คนไข้เข้ารับการรักษาตัวจำนวนมากต่อวัน ส่วนอาการของ น.ส.ชไมพร ในวันนี้นั้นก็ยังนอนไม่รู้สึกตัว แพทย์ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องเฝ้าดูอาการอยู่ตอลด เนื่องจากสมองยังไม่รับรู้

ทางด้าน นพ.อภิชาติ ชี้แจงว่า วันที่ผู้ป่วยมารับการรักษาตัวนั้นหัวใจมีการเต้นเร็ว ร่างกายอ่อนเพลีย ขณะที่ฉีดยาไปก็หมดสติ จึงหยุดให้ยาก็พยายามช่วยให้เต็มที่ แต่คนไข้หยุดหายใจไปนาน จึงได้เรียกรถฉุกเฉิน รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 นำทีมแพทย์พยายามช่วยชีวิตปั๊มหัวใจจนชีพจรกลับมาได้ นอนรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน (ER) ตนก็ยังตามมาเป็นแสดงความรับผิดชอบ เป็นแพทย์เจ้าของไข้ แต่อาการยังไม่ดีขึ้น ส่วนที่ทางญาติได้ตั้งข้อสงสัยว่ามีการให้ยาผิดนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเป็นคนไข้ประจำที่เข้ารับการรักษาตัว ตั้งแต่ปี 2549 และเคยให้ยาตัวดังกล่าวมาถึง 21 ครั้ง ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนักเป็นเหตุสุดวิสัย ถ้าเกิดแล้วทางหมอก็ออกมารับผิดชอบอย่างเต็มที่ ในส่วนนี้ขอให้ทางญาติสบายใจได้

ภายหลัง นายไพฑูรย์ และนางสดใส ได้ฟังการชี้แจงของแพทย์ว่าจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงกับน้ำตาไหลด้วยความตื้นตันใจ ก่อนเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้รู้สึกเครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน เพราะบุตรสาวไม่ได้สติ แต่ในเมื่อทางแพทย์เจ้าของสถานพยาบาล และ ผอ.รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ชี้แจ้งและแสดงความรับผิดชอบว่าจะดูแลบุตรสาวอย่างเต็มที่แล้ว ขณะนี้ทำให้รู้สึกดีขึ้นและมีความหวังขึ้นมาบ้างที่จะได้เห็นบุตรสาวกลับได้สติมาอีกครั้ง

Cr:: workpointtv.com