พอจะทราบแล้วหรือไม่ว่า ผู้ต้องขังที่มีชื่อเสียงในสังคมคนใดบ้าง ที่จะได้รับการปล่อยตัวหรือเข้าหลักเกณฑ์ตามพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ นายกอบเกียรติ กล่าวว่า ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะเกรงจะไปกระทบสิทธิของผู้ต้องขัง อีกทั้ง หากผู้ต้องขังคนใดที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์เนื่องจากยังเป็นผู้ต้องขังชั้นเลว หรือยังไม่ได้รับการจัดชั้นผู้ต้องขัง ก็อาจไปกระทบต่อความรู้สึกของครอบครัวของผู้ต้องขังก็ได้ เพราะสังคมอาจมองว่าเขาเป็นนักโทษชั้นเลว ดังนั้น บางเรื่องก็ไม่ควรที่จะพูดออกไป
"สำหรับผู้ต้องขังที่จะได้รับการปล่อยตัวครั้งนี้ อยากให้สังคมให้โอกาสเขาได้กลับไปใช้ชีวิตแบบปกติ เพราะเชื่อว่าถ้าคนกลุ่มนี้ได้รับโอกาสและมีงานทำ ก็จะไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีก ซึ่งในเรือนจำเราก็ได้เตรียมพร้อมในการให้เขาได้ฝึกอาชีพ ขัดเกลาจิตใจ และปรับทัศนคติเขาบ้างแล้ว ตามนโยบาย 5 ก้าวย่างของรมว.ยุติธรรม ซึ่งมีการจัดฝึกอบรมอาชีพ ให้การศึกษา รวมทั้งส่งเสริมด้านจิตใจในเรื่องพระพุทธศาสนาให้กับผู้ต้องขังด้วย"
ด้าน นางชฎาพร รักษาทรัพย์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง กล่าวในกรณีเดียวกันนี้ว่า ทัณฑสถานหญิงกลางนั้นเบื้องต้นพบว่ามีผู้ต้องขังที่เข้าตามหลักเกณฑ์ ซึ่งจะได้รับการปล่อยตัวพ้นเรือนจำประมาณ 80 คน และมีผู้ต้องขังที่จะเข้าหลักเกณฑ์ได้ลดวันต้องโทษและครบเงื่อนไขการปล่อยตัวอีก 300-400 คน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราอยู่ระหว่างตรวจสอบและจัดทำรายชื่อ ก่อนเสนอคณะกรรมการพิจารณา และนำเสนอศาลปล่อยตัวต่อไป
ส่วนกรณีของ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ผู้ต้องหาในข้อหาแจ้งความเท็จ ข้อหาพยายามค้ามนุษย์ และข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนางกิมเอ็ง แซ่เตีย หรือ กมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงและคดีความผิดตามมาตรา 112 นั้น เข้าหลักเกณฑ์พระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้หรือไม่ นางชฎาพร กล่าวว่า ทั้งสองคนขณะนี้เป็นผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี จึงยังไม่ได้รับสิทธิตามกฏหมายพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้