เลขาธิการพระราชวัง รับพระราชโองการเหนือเกล้าฯ สั่งว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระบรมชนกนาถ ซึ่งเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่พฤศหัสบดี ที่ 13 ตุลาคม 2559 จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้บำเพ็ญพระราชกุศล มีรายการดังนี้
วันจันทร์ ที่ 5 ธันวาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง
เวลา 17 นาฬิกา รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชดำเนินไปยังชานหน้าพระอุโบสถบรรพชิตจีนและญวนถวายพระพร แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากรมาแล้ว เสด็จลงชานหน้าพระอุโบสถพระราชทานสังควัตถุแก่ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้สูงอายุ ฝ่ายหน้า-ฝ่ายใน เสด็จพระราชดำเนินจากพระอุโบสถไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปเทียบที่หน้าพระทวารเทเวศรรักษา เสด็จพระราชดำเนินเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์ สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านกระแสพระราชโองการสถาปนาสมณศักดิ์ชั้นสมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะเจ้าคณะรอง จบแล้ว พระสงฆ์ 10 รูป รูปเจริญชัยมลคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ ดุริยางค์ จากนั้น ทรงประเคนสุพรรณบัฎและหิรัญบัฎ พัดยศ ผ้าไตร เครื่องประกอบสมณศักดิ์ แด่สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ เจ้าคณะรองที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาตามลำดับ จากนั้น ทรงประเคนสัญญาบัตร พัดยศแด่พระสงฆ์ซึ่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ใหม่ตามลำดับ
พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรกเจ้าพนักงานกองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา นิมนต์พระสงฆ์ 30 รูปซึ่งเจริญพระพุทธมนต์เข้านั่งยังอาสนะในพระที่นั่ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ประดิษฐานในพระที่นั่งบุษบกมาลา แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะกราบถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งประดิษฐานเหนือพระราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปเจริญพระพุทธมนต์ จบ ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ทั้งนั้น สดัปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับ
วันนี้ แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายจุลจอมเกล้าหรือสายสะพายสูงสุด
วันอังคารที่ 6 ธันวาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง
เวลา 10 นาฬิกา 30 นาที เสด็จพระราชดำเนินขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระทวารเทวาราชมเหศวร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ประดิษฐานในพระที่นั่งบุษบกมาลา แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ กราถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งประดิษฐานเหนือพระราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปถวายพรพระ จบ ทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว เจ้าพนักงานนิมนต์พระพรหมมุนี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ที่จะถวายพระธรรมเทศนาขึ้นนั่งบนธรรมาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระพรหมมุนี ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบ ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์และทรงทอดผ้าไตรพระสงฆ์ทั้งนั้นสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพรพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับ การแต่งกาย แต่เครื่องแบบครึ่งยศไว้ทุกข์