2นักโทษรุมยำตร.สลบคาศาล จับแก้ผ้าก่อนหนีแต่ไม่รอด

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดพัทยาว่า มี 2 ผู้ถูกคุมขังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและพยายามจะหลบหนี เหตุเกิดภายในศาลจังหวัดพัทยา หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้นำกำลังตำรวจและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุภายในห้องน้ำ ชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งเป็นสถานที่กักขังผู้ต้องหาที่รอขึ้นพิจารณาคดี พบ ด.ต.สมบูรณ์ ศรีคำกิจ อายุ 49 ปี ผบ.หมู่งาน ป. สภ.เมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจประจำศาลจังหวัดพัทยา นอนสลบเหมือดอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียว ใบหน้าบวมปูด ตามร่างกายมีบาดแผลถูกทำร้ายสะบักสะบอมบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งรพ.บางละมุง

ตรวจสอบที่บริเวณด้านหลังอาคารศาล พบร่างนายเกษม วงศ์เจริญ อายุ 30 ปี ซึ่งอยู่ในชุดนักโทษและที่ขาทั้ง 2 ข้าง มีโซ่ตรวนพันธนาการ นอนร้องโอดโอยอยู่ในสภาพข้อเท้าแพลง หน่วยกู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่ง รพ.บางละมุง นอกจากนี้ที่บนชั้น 2 เจ้าหน้าที่ยังสามารถควบคุมตัวนายประวี คาเสนะ อายุ 30 ปี ผู้ถูกคุมขังที่คิดจะหลบหนีอีกคนไว้ได้

รปภ.ประจำศาลจังหวัดพัทยา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุด.ต.สมบูรณ์ กำลังพา 2 ผู้ถูกคุมขังที่ก่อเหตุ ซึ่งต้องคดียาเสพติด , อาวุธปืน และข่มขืน ไปขึ้นบังลังก์ศาลเพื่อพิจารณาคดี ระหว่างที่เดินอยู่บนชั้น 2 ผู้ถูกคุมขังทั้งคู่ได้ออกอุบายขอเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว แต่ในระหว่างที่ ด.ต.สมบูรณ์ เผลอไม่ทันระวังตัว ทั้งสองคนได้ช่วยกันรุมทำร้ายและจับศีรษะโขกผนังปูนจนสลบเหมือด พร้อมกับช่วยกันถอดเครื่องแบบข้าราชการตำรวจออกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว แล้วพากันวิ่งหลบหนีทั้งที่มีโซ่ตรวนอยู่ที่ขา แต่บังเอิญมี รปภ.ประจำศาลเห็นเหตุการณ์จึงช่วยกันจับนายประวี ไว้ได้ ส่วนนายเกษม ปีนหน้าต่างจากชั้น 2 แล้วกระโดดลงไปยังพื้นด้านล่างเพื่อจะหลบหนี แต่ไปไม่รอดเพราะขาแพลง 

ด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว และคาดว่าน่าจะเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ เพราะด.ต.สมบูรณ์ อายุค่อนข้างมากแล้ว ภายหลังได้นำคณะเดินทางไปเยี่ยมพร้อมกับสอบถามเรื่องราวและพบว่าอาการปลอดภัยแล้ว ก่อนมอบเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลในเบื้องต้น ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีและได้รับบาดเจ็บที่ขาพบว่าอาการไม่ได้รุนแรงมากนัก หลังจากให้แพทย์ช่วยตรวจแล้วจึงนำตัวมาคุมขัง พร้อมกับจะได้แจ้งข้อกล่าวเพิ่มเติมกับทั้งสองคน เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย.