วอนช่วยเด็กม.5ถูกรถชน คู่กรณีเมาแล้วขับ-ไม่เหลียวแล
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ วอนช่วยเด็กม.5ถูกรถชน คู่กรณีเมาแล้วขับ-ไม่เหลียวแล
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดกระแสการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก @Tanongsack Yangtrakul ระบุ “วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล นายจิรายุ แสนนิ่มนวล ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส สมองได้รับการกระทบกระเทือนเสมือนบุคคลทุพพลภาพ” พร้อมภาพของผู้ป่วยคนดังกล่าว สร้างความสะเทือนใจแก่ชาวโซเชียลมีเดียที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นายศรัณย์ แสนนิ่มนวล อายุ 22 ปี พี่ชายของนายจิรายุให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่น้องชายคือนายจิรายุ แสนนิ่มนวล หรือเป็ด อายุ 19 ปี นักเรียนชั้นม.5 รร.พบพระวิทยาคม จ.ตาก ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่วัดเพื่อนำน้ำปานะไปถวายพระที่วัด เมื่อถวายเสร็จเรียบร้อยจึงกลับบ้านในเวลา 18.30 น. ระหว่างทางบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านแม่ออกฮู หมู่ 4 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก มีรถกระบะคันหนึ่งขับพุ่งตรงสวนเข้ามาในเลนที่น้องชายขี่อยู่ จนรถประสานงากันทำให้น้องชายได้รับบาดเจ็บสาหัสสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ตับฉีก และเลือดออกในช่องปอดทั้งสองข้าง กระดูกซี่โครงหัก สูญเสียความทรงจำ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องให้อาหารโดยการใช้ท่อสายยาง มีการเจาะช่องคอเพื่อช่วยในการหายใจ
หลังเกิดเหตุชายคนขับรถกระบะซึ่งมีอาชีพครู มีอาการมึนเมาจากแอลกอฮอล์ได้แจ้งว่ามีประกันภัยชั้น1และยังมีพรบ.คุ้มครองอยู่ แต่ถ้าลงบันทึกกับทางตำรวจว่าเป็นเหตุเมาแล้วขับทางประกันภัยจะไม่จ่ายให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พบพระ จึงลงเพียงบันทึกประจำวันเท่านั้น แต่หลังจากวันที่เกิดเหตุเพียงแค่ 1 วัน จึงทราบว่าทางคู่กรณีไม่ได้ต่ออายุประกันภัย และพรบ. และในวันไกล่เกลี่ยได้แจ้งทางบ้านว่าไม่มีเงินมาก จะขอชดใช้ค่าเสียหายเพียงแค่ 2 หมื่นบาทเท่านั้น แต่มารดาขอไม่รับ ซึ่งตั้งแต่วันที่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน คู่กรณีไม่เคยเหลียวแลเลย
อีกทั้งคดีความยังคงไม่คืบหน้า ทางตำรวจแจ้งเพียงแต่ว่า รอเอกสารที่ทางรพ.รับรอง ซึ่งตอนนี้น้องเป็ดยังคงรักษาตัวอยู่ในรพ.มีค่ายาช่วยบำรุงสมองเฉลี่ยวันละ 1,800 บาท ทำให้ทางบ้านตนซึ่งมีฐานะยากจนต้องกู้ยืมเงินจำนวนมากมารักษา โดยมีเพื่อนของน้องชายได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือ ทำให้มีผู้ใจบุญโทรมาสอบถาม และโอนเงินมาช่วยเหลือ ซึ่งตนและครอบครัวรู้สึกขอบคุณในน้ำใจที่หยิบยื่นให้เป็นอย่างมาก การที่ครอบครัวต้องมาเห็นน้องชายซึ่งเป็นเด็กนิสัยดี รักเรียน ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมของโรงเรียนตลอดจนได้เป็น 1 ในสภานักเรียน เป็นที่รักของเพื่อน ๆ และอาจารย์ต้องมานอนไม่รู้สึกตัวขนาดนี้ เป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก จึงอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลาย ๆ คนคำนึงถึงผู้ร่วมใช้รถ ใช้ถนนบ้าง เมาก็อย่าขับ อย่าทำร้ายชีวิตผู้บริสุทธ์อีกเลย.