พลันที่เห็นเงาร่าง นายไพศาล พืชมงคล พลันที่เห็นเงาร่าง นายสมชาย แสวงการ
ก็”กระสา” ถึง “เลือด”
ลำพังเสียงโหวกเหวกอันมาจาก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ไม่น่าจะสกัด ขัดขวาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้
ตรงกันข้าม กลับจะแต้ม”สีสัน” สร้างความคึกคัก
การออกโรงของ นายไพศาล พืชมงคล จึงจำเป็น การตามมาของ นายสมชาย แสวงการ จึงขาดไม่ได้
2 ท่านนี้ถนัดในปฏิบัติการ “เชือดนิ่ม”
นายไพศาล พืชมงคล จัดเจนในเรื่อง “หมากรุก”ตั้งแต่อยู่ธรรมศาสตร์
นายสมชาย แสวงการ จัดเจนในด้าน”การสื่อ”
เมื่อดำเนินกลยุทธ์ในแบบ “แยกกันเดิน” แต่ที่สุดแล้วก็”รวมกันตี”
มีหรือที่”สมันน้อย” จะ”รอด”
ต้องยอมรับว่า ประเด็นอันเป็นเนื้อหาใจกลางในการขุดคุ้ย โจมตีของนักรบ 2 ท่านหลัง
ไม่แตกต่างไปจาก “คุณหมอ”
เพราะยังเน้นในเรื่อง “การทุบ” ราคา เพราะยังเน้นในเรื่องที่สุดแล้วก็คือ “ทำร้าย”ชาวนา
ที่บอกว่า เจตนา “ดี” ไม่ใช่ หากเป็นเจตนา “ร้าย”
การซื้อข้าวสารมา 20 บาทต่อกิโลกรัมแล้วนำมาบรรจุถุงขายในราคา 20 บาทต่อกิโลกรัม
คือ “มหันตโทษ” ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เพราะการขายข้าวสารในราคา 32 บาทต่อกิโลกรัมก็สามารถทำได้และมีผู้ทำมาแล้วที่โรงแรมเอเชีย
ก็ขายได้มากถึง 32 ตัน
คำถามก็คือ แล้วทำไม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องขายในราคาเพียง 20 บาทต่อกิโลกรัม
เท่ากับกำไรหายไป 12 บาท
มีประเด็นมากมายจาก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จาก นายไพศาล พืชมงคล และจาก นายสมชาย แสวงการ เสนอขึ้น
จำเป็นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องตอบ
นั่นก็คือ ข้าวสารที่อ้างว่าซื้อจากอุบลราชธานี ศรีสะเกษและสุรินทร์
เป็นของ”ชาวนา” หรือของ”โรงสี”
นั่นก็คือ ราคาที่ซื้อมา 20 บาทต่อกิโลกรัมแล้วขาย 20 บาทต่อกิโลกรัม
เป็นการ”ช่วย” หรือเป็นการ”ทุบ”ชาวนา
เหมือนกับเป็นเรื่องไม่ยากลำบาก เหมือนกับเป็นเรื่องของราคาที่แตกต่างกันเฉพาะพื้นที่ในการซื้อและในการขาย
แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเป็นต้องตอบ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
