วันที่ 8 พ.ย. ที่ บก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รรท.ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พร้อมด้วยรอง ผบก. ร่วมกันแถลงชี้แจงกรณีการแชร์คลิปนายเกรียงไกร ไทยอ่อน รองประธานกรรมาธิการธรรมาภิบาลจังหวัดหนองบัวลำภู ตรวจสอบการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ จ.นครราชสีมา บนถนนเลี่ยงเมือง จอหอ-สามแยกปักธงชัย บริเวณใต้ทางแยกต่างระดับบ้านหนองกระดัง ต.จอหอ อ.เมือง โดยมีการกล่าวถึงข้อกฎหมาย พระราชบัญญัติทางหลวง (พ.ร.บ) มาตรา 38 รวมถึงการตั้งด่านตรวจบนถนนทางหลวงอย่างละเอียดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รับฟัง นอกจากนี้นายเกรียงไกร ได้ขอดูหนังสือขออนุญาตการตั้งด่านอีกด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องยกเลิกการตั้งด่านและรีบเก็บสิ่งของขึ้นรถยนต์ตราโล่ออกไป
ผู้การโคราชออกโรงแจง คลิปแฉด่านตรวจ สภ.จอหอ ว่าอย่างนี้..?
การตั้งจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจบนถนนหลวงนั้นถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ โดยกรณีนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความชัดเจนแล้วว่า ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการตั้งจุดตรวจได้ และการตั้งจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ ก็เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่มีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ภายในจุดตรวจ ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการที่มีการระบุว่าเมื่อตำรวจเห็นชายคนที่ถ่ายคลิปแล้วถึงกับต้องยกเลิกการตั้งจุดตรวจนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่มาจนครบระยะเวลา 3 ชั่วโมงแล้ว จึงได้ดำเนินการยกเลิกจุดตรวจตามปกติ ซึ่งก็ตรงกับช่วงระยะเวลาที่ชายคนดังกล่าวกำลังถ่ายคลิปพอดีเท่านั้น โดยปกติแล้วตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาจะตั้งจุดตรวจจุดละประมาณ 3 ชั่วโมง โดยสลับพื้นที่การตั้งจุดตรวจกันไปตลอด 24 ชั่วโมง เสมือนเป็นใยแมงมุม เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนเรื่องการถ่ายคลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ และประชาชนทั่วไปอาจกระทำตามเป็นแบบอย่างนั้นสามารถที่จะกระทำได้ เพราะการที่สังคมจะช่วยกันตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ควรเป็นการจับผิดกัน และการตรวจสอบนั้นก็ต้องไม่ไปรบกวนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ด้วย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบภาพการถ่ายคลิปของบุคคลดังกล่าวว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ แต่ในเบื้องต้นอยู่ในระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
พ.ต.อ.สุภากร กล่าวอีกว่า การตั้งจุดตรวจในแต่ละพื้นที่นั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการวิเคราะห์สภาพอาชญากรรมต่างๆ เพื่อมีการจัดวงรอบในการตั้งจุดตรวจในแต่ละพื้นที่ว่าพื้นที่ไหนที่อาจจะเป็นเส้นทางในการลักลอบขนยาเสพติด หรือเส้นทางไหนที่ใช้ในการประกอบต่างๆ ดังนั้นก็จะต้องมีการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกสถานีตำรวจได้ตั้งจุดตรวจเพื่อเป็นการป้องกันและป้องปราบเหตุอาชญากรรมและการลักลอบขนยาเสพติด ดังนั้นตนจึงยืนยันได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ ที่ได้มีการตั้งจุดตรวจในจุดดังกล่าวนั้นเป็นไปตามแผนที่ทางผู้บังคับบัญชาได้มีการกำหนดไว้ และมีแนวทางในการปฏิบัติงานตามที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ทุกประการ
สำหรับผลการตั้งจุดตรวจของสถานีตำรวจภูธรจอหอ ในช่วงที่ผ่านมา ที่ได้มีการตั้งจุดตรวจตามวงรอบของการวิเคราะห์เหตุอาชญากรรมและสายข่าวการลักลอบขนยาเสพติด นั้นสามารจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาบ้า จำนวน 8 แสนเม็ด แล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน รถตู้ 1 คัน และยาบ้า 5 หมื่นเม็ด ซึ่งตนคิดว่าหากจะรอการขออนุมัติจากอธิบดีกรมทางหลวงตามความเข้าใจที่ผิดๆ ยาเสพติดและอาชญากรรมต่างๆ คงอยู่เต็มบ้านเมือง ดังนั้นตนจึงยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โคราชยังจะต้องดำรงดูแลประชาชนโดยการตั้งจุดตรวจต่อไปและตนเองได้มีการสั่งการให้มีการกวดขันกำชับสร้างความเข้าใจรวมทั้งการปฏิบัติให้ทุกต้องตามระเบียบ