คำตอบที่แม่รอจากการพบกันครั้งแรกของ ในหลวงรัชกาลที่๙ และพระราชินี ที่ปารีส

ณ.กรุงปารีส พ.ศ. ๒๔๙๐ ในการรอรอรับเสด็จฯอยู่ ณ ที่นั้น วันนี้นับเป็นครั้งแรกในชีวิตคุณหญิง“หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์กิติยากร” “คุณหญิง” วัย ๑๕ ปี ผู้เป็นธิดาองค์ใหญ่ของท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศสด้วยเช่นกันได้รับอนุญาตให้มาร่วมรับเสด็จฯในครั้งนี้ด้วย วันนี้นับเป็นครั้งแรกในชีวิตคุณหญิงทีเดียวที่จะได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯชื่นชมพระบารมีของ “ในหลวง” ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด ดังนั้นระหว่างที่กำลังรอคอยเฝ้าแต่ตั้งอกตั้งใจซักซ้อม “ถอนสายบัว” อยู่จนแล้วจนเล่าอย่างอดทน แต่ ๔ โมงเย็นผ่านไปกระทั่งฟ้าเริ่มมืดแม้กระนั้นก็ยังไม่มีวี่แววว่ารถยนต์พระที่นั่งจะมาถึง

ถึงตอนนี้บรรดา “ผู้ใหญ่” ที่มาเฝ้ารอเริ่มมีท่าทีกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัดด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแม้จะทรงได้ชื่อว่าเป็น “กษัตริย์หนุ่ม” ทรงกอปรด้วยพระปรีชาสามารถและพระอุปนิสัยอันเปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบอย่างที่สุดแล้ว ยังทรงมีพระนิสัยตรงต่อเวลาเสมอการผิดเวลาอย่างมากในครั้งนี้จึงทำให้ทุกผู้คนในที่นั้นต่างรู้สึกแปลกใจระคนห่วงกังวลใจยิ่ง ทางด้านหม่อมราชวงศ์สาวผู้มี ดวงหน้าที่กระจ่างด้วยรอยยิ้มแจ่มใสมาตั้งแต่ช่วงแรกๆก็เริ่มจะแสดงอาการ “หน้ามุ่ย” ขึ้นมาบ้างแล้วด้วยความหิวเพราะขณะนั้นเวลาล่วงเลยไปจนเกือบจะหนึ่งทุ่ม ไหนจะความเหนื่อยล้าจากการซักซ้อมถอนสายบัวมาตั้งแต่บ่ายต้นๆ แต่จนแล้วจนรอดสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ยังไม่เสด็จฯมาให้คุณหญิงได้ “ถอนสายบัวถวายบังคม” เสียที!

ดังนั้นสำหรับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์แล้วการพบกันครั้งแรกนี้จึงไม่ทำให้เธอประทับใจสักเท่าใดนัก

“สำหรับข้าพเจ้าเป็นการ ‘เกลียดแรกพบ’ มากกว่า ‘รักแรกพบ’ เนื่องเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่าจะเสด็จถึงเวลาบ่าย ๔ โมงแต่จริงแล้วเสด็จมาถึง ๑ ทุ่มช้ากว่านัดหมายตั้ง ๓ ชั่วโมงทรงทำให้ข้าพเจ้าต้องซ้อมถอนสายบัวอยู่จนแล้วจนเล่าจึงเป็นการเกลียดเมื่อแรกพบมากกว่ารักเมื่อแรกพบ...”

อย่างไรก็ตามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จฯมาถึงด้วยความโล่งอกของทุกคนและได้ทราบถึงสาเหตุที่ทรงมาถึงช้ากว่ากำหนดว่า เป็นเพราะความเก่าของรถยนต์พระราชพาหนะได้เกิดเครื่องเสียและน้ำมันหมด ทำให้ต้องเสียเวลา

และแล้ว...พระเนตรของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็สบเข้ากับประกายดวงเนตรคมดำขลับของหม่อมราชวงศ์สาว ที่แม้ยังเจือด้วยแววเคืองขุ่นอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่อาจลดทอนเสน่ห์ความงามในดวงพักตร์ผุดผาดหวานซึ้งของดรุณีน้อยวัยแรกรุ่นผู้นี้ลงได้เลย...

ก่อนหน้านี้สมเด็จพระราชชนนีซึ่งประทับอยู่ ณ สวิตเซอร์แลนด์ได้รับสั่งถึง “ความน่ารัก” ของหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ให้ทรงทราบ ในการเสด็จฯ เยือนปารีสครั้งนี้สมเด็จพระราชชนนีก็ยังรับสั่งเป็นพิเศษอีกว่า...ให้ไปทอดพระเนตรธิดาของท่านทูตไทยว่าสวยและน่ารักไหม...ทั้งยังทรงกำชับด้วยว่า

ไม่มีใครทราบได้ว่า ส่วนลึกในพระราชหฤทัยของกษัตริย์หนุ่มพระองค์นี้ทรงรู้สึกอย่างไรเมื่อแรกสบเนตรกับธิดาสาวของท่านเอกอัครราชทูตฯ กระทั่ง...เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโทรศัพท์กลับไปยังโลซานน์สมเด็จพระราชชนนีก็ทรงไม่ลืมที่จะรับสั่งถามถึง “ธิดาของท่านนักขัตรฯ”และคำตอบสั้นๆที่สมเด็จพระราชชนนีทรงได้รับก็คือ

“เห็นแล้วน่ารักมาก”