สำหรับไก่ที่นำมาทอดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในวันนี้มีจำนวน 1,300 กิโลกรัม และข้าวเหนียว 500 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีไอศรีมกระทิสด จำนวน 2 ถัง
นอกจากนี้ ที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำอาหาร ขนม ผลไม้ และน้ำดื่มพระราชทาน แจกจ่ายให้ประชาชน
สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายแก่ประชาชนในวันที่ 2 พฤศจิกายน มื้อเช้าเป็นข้าวเหนียวหมูฝอย 1,000 ชุด พร้อมนมหนองโพ 2,000 กล่อง มื้อกลางวัน ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน 2,000 ชุด ส้มตำ 2,000 ชุด ยากิโซบะ 2,000 ชุด และเฉาก๊วยชากังราว 1,000 ชุด และมื้อเย็น ข้าวหมูทอด ข้าวไก่ทอด ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ และข้าวเหนียวหมูทอดอย่างละ 1,000 ชุด และขนมไทย อีก 1,000 ชุด ทั้งนี้ มีน้ำดื่มสมุนไพรบริการประชาชนตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กองงานในพระองค์ฯ ยังเปิดเผยถึงเมนูวันพรุ่งนี้ 3 พฤศจิกายน ว่ามื้อเช้าเป็นข้าวเหนียวหมูปิ้ง นมหนองโพ อย่างละ 1,000 ชุด ส่วนมื้อกลางวัน มีข้าวหมู-ไก่ ทอดกระเทียม อย่างละ 2,000 ชุด และเฉาก๊วยชากังราว พร้อมขนมหวานไทยอย่างละ 1,000 ชุด
ขณะเดียวกันสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณอัครราชกุมารี พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงห่วงใยในพสกนิกรที่เดินทางมาสักการะพรบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงทรงมีรับสั่งให้พระราชทานเลี้ยงอาหารกล่อง และน้ำ วันละหนึ่งมื้อ (มื้อเที่ยง) ให้แก่ประชาชน พร้อมด้วยหน่วยแพทย์-พยาบาล จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ให้ดูแลรักษาตรวจโรคเบื้องต้น รวมถึง การปฐมพยาบาลอุบัติเหตุเล็กน้อย ระหว่างเวลา 10.00-19.00 น.โดยจะให้บริการในทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ต่อเนื่องจนครบ 100 วัน ณ ภายในมณฑลพิธีสนามหลวง บริเวณบูธ 11 เยื้องกับโรงแรมรัตนโกสินทร์ สำหรับวันนี้ ทรงพระราชทานข้าวเหนียวหมูทอด 1,000 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม ขณะเดียวกันได้มีแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และบุคลากรจากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ มาให้บริการ 12 คน และจากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ผลัด รวม 11 คน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จิตอาสา ใช้เวลานอกจากการทำงานมาร่วมให้บริการประชาชนอีกจำนวนหนึ่ง