แค่เห็นพระบรมโกศน้ำตาไหลไม่รู้ตัว ปชช.แห่ถวายสักการะพระบรมศพ

แค่เห็นพระบรมโกศน้ำตาไหลไม่รู้ตัว ปชช.แห่ถวายสักการะพระบรมศพ

วันที่ 1 พ.ย. เป็นวันที่ 4 ที่มีพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. ทุกวัน (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท)

ตั้งแต่เช้ามืดมีพสกนิกรจำนวนมากมาเข้าถวายสักการะพระบรมศพ โดยต่างมาจากทั่วทุกสารทิศต่างสวมชุดไว้ทุกข์มาปักหลัก เพื่อรอเข้าคิวไปถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนให้ประชาชนใช้ทางเข้าเป็นฝั่งประตูมณีนพรัตน์ แทนประตูวิเศษไชยศรีในเวลา 05.00 น. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เข้มงวดในเรื่องของการแต่งกายและการพกพาของมีคม ซึ่งเจ้าหน้าที่มีจุดบริการรับเปลี่ยนชุดสุภาพไว้รองรับ

ประชาชนที่ได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพหลายคนต่างนำพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงร.9 ที่อัญเชิญมาด้วย กอดไว้แนบออกตลอดเวลา ซึ่งสีหน้าของพสกนิกรต่างเศร้าหมอง ขณะเดินเท้าเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง และเมื่อเข้าไปกราบถวายสักการะพระบรมศพ ที่ประดิษฐานในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาอย่างอาลัยรักในพระเจ้าอยู่หัว

นางบังอร สีอำนาจ อายุ 69 ปี และนางสำรวย นาคำ อายุ 66 ปี ประชาชนที่เดินทางมาจากอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา กล่าวเป็นเสียงเดียวกัน ภายหลังเข้าถวายสักการะพระบรมศพด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า ทั้งสองคนเคยมีโอกาสได้รับเสด็จฯพระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงเสด็จฯเยี่ยมชมประสาทหินพิมาย ครั้งนั้นจำได้แม่นยำได้เห็นพระองค์ท่านเป็นครั้งแรกในชีวิต รู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของพระองค์

"ตอนนั้นอายุ 9 ขวบ แม่บอกว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 จะเสด็จฯมาที่ปราสาทหินพิมาน ด้วยความเห็นพระองค์จึงขอตามแม่ไปด้วย เมื่อได้เห็นก็รู้สึกดีใจ แม้ว่าฉันจะยืนอยู่ไกลๆ แต่ก็พยายามที่จะแทรกตัวเข้าไปเพื่อใกล้ชิดพระองค์ เพราะรู้ว่าพระองค์คือพระเจ้าแผ่นดิน" นางบังอร กล่าว

ขณะที่นางสำรวย กล่าวเสริมว่า มีโอกาสรับเสด็จพระองค์หลายครั้ง เพราะภาพของพระองค์ในอดีตยังตรึงใจ กระทั่งทราบเข้าว่าพระองค์เสด็จสวรรคต ตนเสียใจมากน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่สามารถอธิบายได้ และตั้งใจว่าจะเข้ากราบสักการะพระบรมศพให้ได้ จนเมื่อมีโอกาสในวันนี้

"พระองค์ท่านสอนให้รู้จักคำว่าพอเพียง ประหยัด ซึ่งฉันเป็นเพียงชาวนาคนหนึ่ง จึงน้อมนำพระราชดำริของท่านมาใช้ในชีวิตประจำวัน ในวันนี้เมื่ออยู่เบื่องหน้าพระบรมโกศน้ำตาก็ไหลออกมาเองอีกครั้ง มันพูดอะไรไม่ออก และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง" นางสำรวย กล่าว

ต่อมาเวลา 12.00 น. วันที่ 1 พ.ย. บรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวง ขณะนี้ประชาชนเริ่มเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ เป็นจำนวนมากโดยปลายแถวนั้นอยู่บริเวณเต็นท์กองอำนวยการร่วมฯ ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมไปถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจ คอยดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ ประตูทางเข้าทุกจุดมีการตรวจอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดห้ามนำเข้าพื้นที่

เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำ กอร.รส.ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงออกเตือนประชาชนที่จะเข้าถวายพระบรมศพ ถึงเรื่องการระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวเข้ามาภายในพื้นที่ โดยวางมาตการในการรักษาความปลอดภัยจัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราดูความเรียบร้อยโดยรอบ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยป้องกันเหตุซึ่งหน้า โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนเฝ้าระวังกระเป๋าสตางค์และกระเป๋าสะพายของตนเอง หากเกิดเหตุสามารถเข้าแจ้งเหตุได้ที่เต็นท์รับแจ้งเหตุบริเวณท้องสนามหลวง


แค่เห็นพระบรมโกศน้ำตาไหลไม่รู้ตัว ปชช.แห่ถวายสักการะพระบรมศพ


แค่เห็นพระบรมโกศน้ำตาไหลไม่รู้ตัว ปชช.แห่ถวายสักการะพระบรมศพ


แค่เห็นพระบรมโกศน้ำตาไหลไม่รู้ตัว ปชช.แห่ถวายสักการะพระบรมศพ


cr.khaosod

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์