เมื่อวันที่21ต.ค.พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้จัดรายการใหม่ชื่อว่า รายการ "ศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน" โดยเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการแทน"รายการคืนความสุขเพื่อคนในชาติ"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชบัณฑูร ให้จัดการพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างสมพระเกียรติ และถูกต้องตามแบบแผนโบราณราชประเพณี รวมทั้งทรงรับสั่งให้ขอพระราชวินิจฉัย จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในเรื่องพิธีการ ตลอดจนการก่อสร้างพระเมรุ และศาลาทรงธรรม สำหรับการประกอบพระราชพิธีพระบรมศพ จากที่ได้ทรงมีพระราชบัณฑูรไว้ก่อนแล้วพร้อมทั้งดูแลทุกข์สุขประชาชนในช่วงนี้ให้ดีที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติภารกิจสำคัญยิ่งนี้ร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวไทย ทุกภาคส่วน เพื่อให้การพระราชพิธีพระบรมศพ สมพระเกียรติ เทิดไว้ซึ่งพระเกียรติยศ และพระเกียรติภูมิอันสูงส่ง
ทั้งนี้ รัฐบาลจะสืบสานพระราชปณิธาน ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีมากกว่า 4,000 โครงการ ทั่วประเทศ ให้ยังคงอยู่ อีกทั้ง ได้ขยายศักยภาพ โดยนำหลักการบริหารของ "ศูนย์การเรียนรู้"ประกอบกับการแสวงประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีการจัดตั้ง "ศูนย์การเรียนรู้" ของกระทรวงต่างๆ บนพื้นฐานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ประเทศมีระบบภูมิคุ้มกัน และสังคมไทยเป็นสังคมคุณภาพ
"ศาสตร์พระราชา" เว็บไซต์ "มูลนิธิมั่นพัฒนา" ใช้คำว่า "The King's Philosophy" http://www.tsdf.or.th/en/philosophy/# สำหรับ"ศาสตร์พระราชา"ที่เกี่ยวกับน้ำเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นพิเศษ ทรงให้ความสำคัญในลักษณะ"น้ำคือชีวิต"ดังพระราชดำรัส ตอนหนึ่งว่า"...หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้..." การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกหรือการชลประทานนั้น นับเป็นงานที่มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ในการช่วยให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกได้อย่างสมบูรณ์ตลอดปี
ในช่วงท้ายของรายการ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศที่ได้ร่วมกันทั้งร่วมมือร่วมใจให้กำลังใจซึ่งกันและกัน กุมมือกันผ่านช่วงเวลาที่โศกเศร้าแสนสาหัสในครั้งนี้ กลับสู่สติที่มั่นคง และก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน ด้วยปัญญาด้วยพลังและด้วยจิตใจที่เข้มแข็งและแนวแน่ ที่จะสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ผู้เป็นที่รักเทิดทูน.
ที่มา : Posttoday.com