10 ปีผ่านไป พระจริยวัตรไม่เปลี่ยน กษัตริย์จิกมี ผู้ทรงรัก-เคารพในหลวง ร.9
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ 10 ปีผ่านไป พระจริยวัตรไม่เปลี่ยน กษัตริย์จิกมี ผู้ทรงรัก-เคารพในหลวง ร.9
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 เมื่อประเทศไทยมีการจัดงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช คนไทยต่างพากันประทับใจและชื่นชมกับพระจริยวัตรอันงดงามของเจ้าชายจิกมี ที่ยังทรงเป็นมกุฎราชกุมารอยู่ในตอนนั้น เมื่อพระองค์ได้เสด็จร่วมพระราชพิธีในฐานะพระราชอาคันตุกะ และทรงแสดงความนอบน้อมต่อผู้มีโอกาสได้เข้าเฝ้า ด้วยการยกพระหัตถ์ทักทายโดยไม่ถือพระองค์เลยแม้แต่น้อย
พระจริยวัตรรวมถึงพระสิริโฉมงดงามของเจ้าชายจิกมีในวันนั้น ได้กลายเป็นที่พูดถึงไม่น้อยในหมู่คนไทย และปฏิเสธไม่ได้ว่าพระองค์ทรงกลายเป็นเจ้าชายที่ชาวไทยหลายคนรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ทราบว่าพระองค์ทรงมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็นแบบอย่าง พระองค์ทรงเคารพและชื่นชมในหลวง ร.9 ของเรามากทีเดียว
หลังจากการเสด็จพระราชดำเนินมาไทยในครั้งนั้น เจ้าชายจิกมีก็ทรงงานด้านการเรียนรู้การเกษตรบนพื้นที่สูง ทรงสานต่อโครงการความร่วมมือระหว่างภูฏานและไทย ในการพัฒนาพื้นที่บนภูเขาสูงที่ริเริ่มไม่กี่ปีก่อนหน้านั้น เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศบนพื้นที่สูงอย่างภูฏานมาโดยตลอด
กระทั่งเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน พระองค์ก็ได้เสด็จเยือนไทยอีกครั้ง และมหาวิทยาลัยรังสิตได้ทูลเกล้าถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาปรัชญา การเมืองและเศรษฐศาสตร์ แด่เจ้าชายจิกมี ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสถึงในหลวงว่า พระองค์ทรงได้เห็นประชาชนไทยแสดงความจงรักภักดีแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สิ่งนี้เป็นหัวใจสำคัญในการปกป้องประเทศ และในโอกาสที่ปี 2549 เป็นปีมงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปี นับว่าเป็นปีที่พิเศษต่อพระองค์เช่นกัน เพราะพระองค์ทรงรัก เคารพ และชื่นชมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างมาก ทรงเป็นสุดยอดพระมหากษัตริย์
ในเดือนธันวาคมปีเดียวกันนั้นเอง สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย นัมชุก พระราชบิดาของพระองค์ทรงสละราชสมบัติ พระองค์จึงได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็น "สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก" หรือ "กษัตริย์จิกมี" ก่อนที่พระราชพิธีราชาภิเษกจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น 2 ปี จากวันนั้นถึงวันนี้กษัตริย์จิกมีก็ยังทรงมุ่งมั่นพัฒนาประเทศด้วยแนวทางคล้ายกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงเคารพพ่อหลวงของชาวไทยมาก
กระทั่งเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อพระองค์ทรงทราบข่าวพระอาการประชวรหนักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ก็ทรงมีพระราชโองการให้พระทุกวัดสวดมนต์ถวายพระพรทั่วประเทศ และในวันต่อมาเมื่อทรงทราบถึงการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ก็ทรงอาลัยยิ่งนัก ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินมายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏานและพระราชโอรส เพื่อร่วมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล และเช่นเคย พระองค์ยังคงมีพระจริยวัตรอันงดงาม ทรงยกพระหัตถ์ไหว้ ซึ่งนับเป็นพระจริยวัตรเฉพาะพระองค์ที่คนไทยจดจำได้เสมอ