เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า สำหรับบรรยากาศที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก ซึ่งใช้เป็นสถานที่ตั้งศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์(ศตส.) โดยมีตัวแทนจากทุกกระทรวง แบ่งเป็นฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ฝ่ายท่องเที่ยววัฒนธรรมและกิจการพิเศษ ฝ่ายสังคม ฝ่ายอำนวยการฝ่ายสังคม ร่วมปฏิบัติงานติดตามสถานการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับกำหนดการพระราชพิธี การเผยแพร่ข้อความ ข้อเรียกร้อง หรือข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบในด้านต่างๆ ทั้งความมั่นคงหรือเศรษฐกิจ โดยให้ส่งข้อมูลให้หน่วยงานต้นสังกัดแต่ละฝ่ายได้รับทราบในแต่ละวัน เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานในมิติต่างๆ ให้ประชาชนรับทราบข่าวสารที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ จะบรรยายสรุปสถานการณ์ประจำวัน พร้อมกับให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) บรรยายสรุปงานที่ต้องปฏิบัติและผู้ที่จะต้องรับผิดชอบในเวลา 09.00 น.ของทุกวัน
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการให้โทรศัพท์สายด่วนทำเนียบรัฐบาล หมายเลข 1111 และสายด่วนศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ 1567 เปิดให้บริการข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ ส่วนการประดับพระบรมฉายาลักษณ์ตามหน่วยงานและอาคารบ้านเรือนนั้น ขอให้ประดับผ้าระบาย โดยให้ผ้าสีดำอยู่ด้านบนและสีขาวอยู่ด้านล่าง และการจัดโต๊ะหมู่บูชา จะประกอบด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ เครื่องทองน้อย และผ้าระบาย รวมทั้งงดประดับธงตราสัญลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สำนักงานในกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต ได้ตั้งโต๊ะถวายความอาลัย เพื่อให้ประชาชนได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป