ชงร่างกม.ใช้ นางสาว แทนนาย 2 กะเทยดังเฮ เป็นหญิงสมบูรณ์

ชายแปลงเพศใกล้สมหวัง กก.ส่งเสริมสตรีฯ พม.หนุนร่าง พ.ร.บ.ให้สิทธิเลือกใช้คำนำหน้าชื่อเป็น'น.ส.- นาง' ยุติปัญหาใช้ชีวิตหลังผ่าตัด 'จุรี' รับปากเร่งเสนอเข้าสภา 2 มิสทิฟฟานี่ดีใจได้เป็นผู้หญิงสมบูรณ์

ความฝันของผู้ชาย

ที่ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศเป็นหญิงและต้องการใช้ "นางสาว" หรือ "นาง" นำหน้าชื่อแทน "นาย" ใกล้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีและสถาบันครอบครัวแห่งชาติ ซึ่งมีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธาน เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ให้สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับคำนำหน้านาม เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน และให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม

โดยกรรมการเข้าร่วมประชุม อาทิ

นพ.พลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่าการ พม. นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัด พม. และนางจุรี วิจิตรวาทการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นต้น

นางจุรี วิจิตรวาทการ กล่าวว่า
 
ในเร็วๆ นี้ จะเสนอร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับคำนำหน้านาม เพื่อให้สิทธิกับผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว มีทางเลือกใช้คำนำหน้าว่า น.ส.ได้ เพราะคนแปลงเพศน่าเห็นใจ การจะให้ใช้นายนำหน้าอย่างเดิมย่อมมีความลำบากทุกข์ร้อนในการดำรงชีวิต อีกทั้งในระดับสากลได้ให้สิทธิกับคนเหล่านี้ในการเลือกใช้คำนำหน้าเป็น น.ส.ได้ เมื่อยอมรับการแปลงเพศได้ก็ให้สิทธิเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ โดยขอให้ พม.เป็นฝ่ายร่วมสนับสนุนในการเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา พม.ได้ผ่านกฎหมายอนุญาตให้สิทธิสตรีเลือกคำนำหน้าว่าจะใช้นางหรือ น.ส.ได้ หากจะให้เกิดประโยชน์เป็นธรรมโดยทั่วกัน ต้องให้สิทธิผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงด้วย

นายสุวิทย์ ขันธาโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ กล่าวว่า
 
การเสนอขอแก้ไขกฎหมายที่เลือกปฏิบัติต่อสตรี ส่วนใหญ่ผ่านการพิจารณาวาระ 3 ของ สนช.แล้ว ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 277 และ 286 เรื่องการข่มขืนกระทำชำเรา มาตรา 305 เรื่องการทำแท้ง, พระราชกฤษฎีกาให้ใช้คำนำหน้าสตรี พ.ศ.2460, พ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 ให้มีการตรวจสอบสถานะของคู่สมรสก่อนการจดทะเบียนสมรส และระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2535 ข้อ 18 ให้ข้าราชการชายลาเพื่อดูแลภรรยาที่คลอดบุตรได้ ขณะนี้ พม.ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรับทราบเพื่อพิจารณาดำเนินการการบังคับใช้ตามกฎหมายแล้ว

นายธัญญรัศม์ จิราภัทร์ภากร "ฟิล์ม" มิสทิฟฟานี ยูนิเวิร์ส 2007 กล่าวว่า

ปัจจุบันนี้สาวประเภทสองมีรูปร่าง หน้าตา และจิตใจที่เป็นผู้หญิง สามารถผ่าตัดแปลงเพศ ทำศัลยกรรมหน้าอก ทำศัลยกรรมรูปร่างได้ แต่สิ่งที่ไม่สามารถทำเพื่อให้ได้เป็นผู้หญิงเต็มตัวคือ การมีบุตร และคำนำหน้าชื่อ ดังนั้น หากประเทศไทยมีกฎหมายให้สาวประเภทสองผ่าตัดแปลงเพศสามารถเปลี่ยนคำนำหน้าเป็นนางหรือนางสาวได้นั้น จะช่วยลดปัญหาหลายอย่างที่กำลังเผชิญ เช่น การสมัครงาน การสมัครเรียน หรือไปต่างประเทศ ซึ่งในเอกสารทางราชการยังใช้คำนำหน้านามว่านาย
 
นอกจากนี้

จะเป็นการยกระดับประเทศไทยให้มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นทัดเทียมกับนานาชาติ อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวจำเป็นต้องระบุข้อจำกัดไว้อย่างชัดเจน เช่น ประเทศนิวซีแลนด์ กำหนดให้ต้องผ่าตัดแปลงเพศ และใช้ชีวิตเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไปเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี จึงจะเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อได้ หากไม่กำหนดไว้อาจเกิดความวุ่นวายในด้านการทำสำมะโนประชากรได้

ด้านนายตรีชฎา มาลายภรณ์ "ปอย" มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2004 กล่าวว่า

ควรมีหลักเกณฑ์ในการเปลี่ยน ไม่ใช่ใครจะเปลี่ยนได้ เช่น ตั้งเกณฑ์ว่าเป็นผู้หญิงมาแล้วกี่ปี หรือมีรูปร่างหน้าตาเหมือนผู้หญิงมากถึงเปลี่ยนได้ เพราะคนที่เหมือนผู้หญิงมาก ยกตัวอย่างตนเอง เวลาไปไหน โดยเฉพาะต่างประเทศลำบากมาก ล่าสุดไปประเทศอังกฤษ ถูกเข้าใจผิดเพราะสรีระภายนอกเป็นหญิงแต่ชื่อในพาสสปอร์ตเป็นผู้ชาย ต้องถูกส่งไปพิสูจน์ด้วยการตรวจภายใน ถึงจะเชื่อ เป็นเรื่องที่อับอายมาก