วันนี้ (5 ต.ค.) โจชัว หว่อง แกนนำนักศึกษาเข้าร่วมกับการชุมนุมชาวฮ่องกงประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีน ที่มีกำหนดเดินทางมาถึงประเทศไทย เวลา 23.00 น. เพื่อเข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญพิเศษของงานปาฐกถา 6 ตุลาฯ ประจำปีนี้ ในหัวข้อ "การเมืองของคนรุ่นใหม่" ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันพฤหัสบดี ที่ 6 ตุลาคม นี้
โดยนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประมาณ10คน และผู้สื่อข่าวได้มารอต้อนรับและดักสัมภาษณ์ โจซัว หว่อง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเดินทางมาด้วยสายการบินแอร์เอมิเรตส์ ปรากฎว่าแกนนำนักศึกษาชื่อดัง ก็ยังไม่ยอมออกมา จนกระทั่งเวลา 01.00 น. ผู้สื่อข่าวสอบถามยังเจ้าหน้าที่สายการบิน ก็ได้รับการยืนยันว่า โจชัว หว่อง โดยสารมากับเครื่องดังกล่าว และผ่านขั้นตอนรับสัมภาระแล้ว ต่อมาเวลา 02.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า โจชัว หว่อง ถูกกักตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย และ คาดว่าจะถูกส่งตัวกลับด้วยเครื่องบินเที่ยวต่อไปที่จะเดินทางไปยังฮ่องกง ด้วยสายการบินแอร์เอมิเรตส์
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยกับมติชนว่า กรณีการกักตัวดังกล่าวเป็นไปตามคำขอ ซึ่งส่งมาเป็นหนังสือจากรัฐบาลจีน ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้มากกว่านี้ เนื่องจากเป็นเคสชั้นความลับ และโจชัว หว่องจะถูกส่งกลับฮ่องกงด้วยเที่ยวการบินแรก
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความผิดหวังให้กับคณะนิสิตผู้จัดงานเป็นอย่างมาก
โดยกำหนดการเดิม โจชัว หว่อง จะพูดปาฐกฐาที่จุฬาฯเรื่อง การเมืองของคนรุ่นใหม่ ซึ่งให้ภาพรวมตัวขบวนการและการเปลี่ยนแปลงระดับโลกเป็นหลัก
โจชัว เกิดเมื่อปี 1996 (พ.ศ. 2539) มีบทบาทสำคัญในสังคมฮ่องกงตั้งแต่อายุยังน้อย รวมถึงการประท้วงต่อต้าน High Speed Rail เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นเป็นการประท้วงครั้งแรกที่เขาเข้าร่วม พฤษภาคม ปี 2011 หว่องและเพื่อนร่วมโรงเรียน Ivan Lam (อีวาน ลัม) ได้จัดตั้งกลุ่มกิจกรรมนักศึกษา Scholarism ขึ้น หว่องได้รับความสนใจ และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในปี 2012 เมื่อตอนที่เขาเป็นผู้นำองค์กรประท้วงต่อต้านเกี่ยวกับเรื่องศีลธรรมกับการศึกษาระดับชาติ
"โจชัว หว่อง"นักศึกษาผู้ผันตัวเองเป็นผู้จัดตั้งกลุ่มชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า"กลุ่มนักวิชาการ"แกนนำการประท้วงของกลุ่มพลังนักศึกษาฮ่องกงเป็นผู้นำการประท้วง"หน้าละอ่อน"ซึ่งได้จัดการชุมนุมเรียกร้องปชต.และการปฎิรูปการเมืองเกาะเล็กภายใต้อาณัติการควบคุมของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ผ่านมา โจชัว ได้กลายเป็นบุคคลสำคัญของการเรียกร้องประชาธิปไตยของเกาะฮ่องกง จากการดำเนินบทบาทเป็นนักศึกษาตัวเล็ก ๆ ผู้เป็นปากเสียง เรียกร้อง"สิทธิทางการเมืองของชาวฮ่องกง" หรือมีสิทธิด้านประชาธิปไตยที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งสิทธิในการได้ร่วมการเลือกตั้งผู้ว่าเกาะแห่งนี้ รวมทั้งกระบวนการเสนอชื่อพลเรือนโดยตรงจากชาวฮ่องกงด้วย