จำได้ไหม ! ฆาตกรข่มขืนฆ่าดญ.13 บนรถไฟ ปัจจุบันเป็นยังไง

จะว่าไปแล้วเหตุการณ์นี้ ปรากฏต่อสังคมเริ่มจากการหายตัวไปแบบปริศนาไร้ร่องรอย ของ ด.ญ.13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ระหว่างเดินทางกลับจากเยี่ยมญาติ จ.สุราษฎร์ธานี โดยสารรถไฟตู้นอนมากับพี่สาวและน้องๆ อีก 2 คน แต่แล้วระหว่างเดินทางช่วงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์-เพชรบุรี จู่ๆ เด็กหญิงกลับหายตัวไปไร้ร่องรอย ญาติและเจ้าหน้าที่ตามหาทั่วขบวนรถก็ไม่พบ

ทั้งนี้ นำไปสู่ข้อสันนิษฐานของการเกิดเหตุไปในทางไม่ดีญาติ จึงเข้าแจ้งความตำรวจเป็นคดีความ ก่อนที่หลายๆ ฝ่าย จะร่วมกันออกค้นหา ด.ญ. 13 ปี อีกครั้ง ตามเส้นทางรถไฟ และแล้วก็ไม่อาจหลีกหนีเรื่องร้ายได้พ้น เมื่อพบศพเด็กหญิงเคราะห์ร้ายในสภาพนอนเปลือยกายอยู่ริมป่าหญ้าข้างทางรถไฟ ใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงเช้ามืดวันที่ 7 ก.ค. 2557

ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ลงมือโหดกับเหยื่อบนรถไฟไม่ยี่หระ

คล้อยหลังพบศพ ด.ญ. 13 ปี ตำรวจได้เร่งคลี่คลายคดีและติดตามคนร้าย จนต่อมาพบเบาะแสและหลักฐานว่าที่นอนของเด็กหญิงบนรถไฟมีสภาพถูกรื้อค้น ปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนที่ใช้หายไป รวมทั้งกระเป๋าเป้และสมาร์ทโฟนส่วนตัวก็หายไปด้วย

มาถึงจุดนี้ ตำรวจได้ร่องรอยของคนร้ายค่อนข้างชัดเจน เริ่มเชิญตัวพนักงานบนขบวนรถไฟที่เด็กหญิงโดยสารก่อนหายตัวไปมาสอบสวน เบื้องต้นมีพนักงานบนขบวนรถไฟต้องสงสัย 4 คน แต่ทั้งหมดปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น

แต่แล้วนายเกมและนายหนึ่ง ต้องจนมุมต่อพยานหลักฐาน โดยเฉพาะหลักฐานสำคัญ นั่นคือ ภาพจากกล้องวงจรปิด จังหวะนายเกมได้นำสมาร์ทโฟนของ ด.ญ. 13 ปี ไปขายแก่ร้านแห่งหนึ่งช่วงเวลาหลังเกิดเหตุไม่นาน จากนั้น ชั้นสอบสวนของตำรวจนายเกมจึงยอมเปิดปากสารภาพ

จากการสอบสวนนายเกมสารภาพว่า เป็นผู้ข่มขืนฆ่าและอำพรางศพ ด.ญ. 13 ปี มีนายหนึ่งร่วมรู้เห็นเป็นใจ โดยก่อนเกิดเหตุเสพยาบ้าจนเกิดอารมณ์ทางเพศ เมื่อเห็นเด็กหญิงจึงวางแผนก่อเหตุ ฉวยจังหวะเหยื่อหลับมุดเข้าไปชกต่อยจนสลบแล้วข่มขืน  รู้ตัวกลัวความผิดจึงทิ้งศพลงจากขบวนรถไฟอำพรางคดี แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิด  ขึ้นนำทรัพย์สินไปขาย

ขณะที่เมื่อตรวจสอบประวัติของนายเกมย้อนหลังยังต้องสะพรึงเมื่อมีข้อมูลก่อนหน้านี้นายเกมยังเคยก่อเหตุข่มขืนผู้โดยสารบนขบวนรถไฟมาแล้วถึง 2 ครั้ง ซ้ำมีประวัติถูกจับคดียาเสพติดเมื่อปี 2552

เวลาผ่านไปกระบวนการยุติธรรมดำเนินมาถึงวันที่ 30 ก.ย. 2557 ศาลจังหวัดหัวหินได้มีคำพิพากษาประหารชีวิตนายเกม ส่วนนายหนึ่งนั้น พิพากษาจำคุก 6 ปี แต่มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษเหลือจำคุก 4 ปี โดยทั้ง 2 คน ยื่นอุทธรณ์คดีต่อ

ศาลชั้นต้นพิพากษาประหาร "นายเกม" และจำคุก "นายหนึ่ง" 

กระทั่งวันที่ 14 ก.ย. 2558 ศาลจังหวัดหัวหินได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ซึ่งคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นโดยลงโทษประหารชีวิตนายเกม ส่วนนายหนึ่งไม่ได้ยื่นอุทธรณ์รับโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ล่าสุด ณ วันนี้ คดีนี้ ถึงที่สุดแล้วเนื่องจากนายเกมไม่ใช้สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมยื่นฎีกาถูกจองจำอยู่ในเรือนจำกลางบางขวาง รอกระบวนการตามโทษประหารชีวิต ในอีกด้านหนึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เยียวยาครอบครัวของ ด.ญ. 13 ปี อย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้ แม้จะทดแทนความสูญเสียครั้งนี้ ไม่ได้เลย.    

คดีสิ้นสุดแล้ว "นายเกม" รอรับโทษประหารชีวิตตามขั้นตอน!