เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.ย.พ.ต.ต.พิษณุ เตรียมดี สว.ส.ทท.1 บก.ทท. และ พ.ต.ท.ปิติพงษ์ บุตรเปี่ยม ผกก.สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ สั่งการให้ พ.ต.ท.เอนก ไชย์วงศ์ รอง ผกก.สภ.ภูพิงค์ฯ ได้เชิญตัวนายภูจรัส จิรภาภร หรือนายเซ็ง แซ่ว่า อายุ 38 ปี พร้อมภรรยาของนายภูจรัส คือนางหลู่ลู่ เหล่าว่า อายุ 37 ปี พร้อมลูกสาวอีก 2 คน คือ ด.ญ.หนึ่ง อายุ 7 ขวบ และ ด.ญ.สอง อายุ 10 ขวบ (นามสมมุติทั้งสอง) เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริง
ผลการสอบสวนเบื้องต้น นายภูจรัส ผู้เป็นพ่อของเด็กทั้งสอง กล่าวว่า ตนเดินทางมาตามคำเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไม่วิตกกังวลอะไรเพราะมั่นใจว่าตนให้ลูกสาวไปถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวที่หน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพในช่วงวันหยุดเรียนช่วงเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น และทุกครั้งภรรยาตน คือนางหลู่ลู่ ก็จะเดินทางไปดูแลลูกสาวทั้งสองอย่างใกล้ชิด ภรรยาจะนำงานฝีมือเย็บผ้าปักผ้าไปเป็นเพื่อนทุกครั้ง
นางหลู่ลู่ แม่ของเด็กหญิงทั้งสอง กล่าวว่า "ตนมั่นใจว่าลูกสาวทั้งสองคนเป็นคนดี ไม่ลักเล็กขโมยน้อย เพราะทุกครั้งที่ตนมาดูแล จะพบว่าเงินของนักท่องเที่ยวที่ขับขี่รถจักรยานยนต์จะตกตามถนนบ่อยครั้ง ลูกสาวจะเก็บคืนเจ้าของทุกครั้ง ล่าสุดก่อนหน้านี้ไม่นานลูกสาวเก็บโทรศัพท์มือถือไอโฟนของนักท่องเที่ยวตก ก็ส่งคืนเจ้าของไปแล้วด้วย การที่ตนนำลูกมาถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวมีเจตนาเพียงสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้ดูหลากหลายมากขึ้น เพราะเห็นว่าไปที่ไหนก็จะมีเด็กๆมาบริการพาเที่ยวและพาไปถ่ายภาพมุมสวยๆ บางวันได้ค่าตอบแทนเป็นเหรียญบาท บางครั้งได้ค่าตอบแทนเป็นเหรียญสลึงก็มี ซึ่งไม่เคยไปเรียกร้องเงินทองจากนักท่องเที่ยวเลย แล้วแต่ว่านักท่องเที่ยวจะให้ค่าตอบแทนเท่าไหร่ก็ได้ บางวันนักท่องเที่ยวมาขอถ่ายภาพด้วยได้เงินสูงสุดวันหนึ่งมากถึง 500 บาท"
"กรณีที่นักท่องเที่ยวรายนี้ นำภาพที่ถ่ายภาพกับลูกสาวตน แล้วกล่าวหาว่าขโมยนาฬิกานั้น ตนยืนยันว่าลูกไม่ทำแบบนั้น และความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ เพราะการที่จะขโมยนาฬิกานักท่องเที่ยวมานั้นเป็นเรื่องยากที่จับแขนแล้วปลดทรัพย์ที่เป็นนาฬิกาออกจากแขนโดยไม่รู้ตัวนั้นไม่สามารถทำได้ และตนได้ถามบุตรสาวแล้วว่าเคยไปเอานาฬิกานักท่องเที่ยวมาหรือไม่ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่เคยทำ และทุกครั้งที่เก็บของได้ก็นำไปคืนให้นักท่องเที่ยว บางรายไม่รู้ว่าของเป็นของใครก็นำไปคืนเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ใหญ่บ้านทุกครั้ง เรื่องนี้ให้ไปถามชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านได้ ทุกวันนี้ชาวบ้านต่างบอกว่า ลูกสาวของคนเป็นคนดี เก็บของคืนให้ผู้ใหญ่บ้านจำนวนมากจนเต็มบ้านผู้ใหญ่บ้านแล้ว" นางหลู่ลู่ แม่ของเด็กหญิงทั้งสอง กล่าว
ด้านนายเมธาพันธ์ เฟื่องฟูกิจการ ผู้ใหญ่บ้านบ้านม้งดอยปุย กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบเจตนาของนักท่องเที่ยวต่างชาติรายนี้ว่ามีเจตนาอะไร ตนเชื่อมั่นว่าครอบครัวของนายภูจรัส และนางหลู่ลู่ เป็นครอบครัวที่น่ารัก ไม่เชื่อว่าเด็กจะก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวได้ เพราะการกล่าวหาเพียงเด็กจับแขนและจับนาฬิกาแล้วบอกว่า ขโมยนาฬิกาไปได้นั้นถือว่าไม่ให้ความเป็นธรรมกับเด็กๆ และสร้างความเสียหาย ทำลายบรยากาศการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามตนจะประสานกับทางเจ้าหน้าทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือตรวสอบภาพจากกล้องวงจรปิดว่า หาภาพนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว ที่กล่าวหาเด็กทั้งสองเป็นนักท่องเที่ยวมาในกลุ่มนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์บริษัทอะไรเพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
พ.ต.ท.เอนก ไชย์วงศ์ รอง ผกก.สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องประสานกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาเชียงใหม่ พร้อมกันนั้นจะประสานทางกงสุลของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวด้วยเพื่อจะให้ทราบถึงเจตนาที่แท้จริงก่อน ส่วนครอบครัวของเด็กๆได้ทำการสอบสวนแล้วผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนได้บอกกับเจ้าหน้าที่แล้วว่าไม่ได้กระทำความผิดอะไร ซึ่งเรื่องนี้จะประสานกับทุกภาคส่วนเพื่อหาข้อยุติปัญหานี้ต่อไป