ว่าที่ร.ต.ธนศักดิ์ จันทร์นนท์ วัย 44 ปี เกษตรกรผู้ปลูกแก้วมังกร เล่าว่า เคยผ่านชีวิตทำงานที่บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็คทรอนิคส์ บริษัททำโช๊ครถจักรยานยนต์ และบริษัทผลิตวิทยุติดรถยนต์มา 4 แห่ง ในช่วง 8 ปี ชีวิตมนุษย์เงินเดือนลำบาก จึงมีแนวคิดว่าทำอย่างไรจะมีรายได้เสริมมากกว่าเป็นลูกจ้างมีรายได้ทางเดียว ช่วงที่ทำงานบริษัทหลังสุด จึงซื้อหนังสือปลูกแก้วมังกรมาอ่านศึกษาดู ก่อนลาออกจากงานกลับบ้านเกิด
"ครอบครัวมีที่ดินรวม 6 ไร่ อยู่ติดริมถนนหลวง 2 ไร่ ริมฝั่งโขง 2 ไร่และในหมู่บ้านอีก 2 ไร่ จึงไปตระเวนซื้อกิ่งพันธุ์แก้วมังกร กิ่งละ 50 บาท สายพันธุ์เนื้อขาวเวียดนามจาก จ.ระยอง และแดงไต้หวัน รวม 30 กิ่งมาปลูกหน้าบ้านก่อน เริ่มลงมือปลูกมาแต่ปี 2545 คนข้างบ้านบอกว่าผมบ้าไปแล้วเช้า-เย็น นำน้ำมารดเสาไม้ทุกวันที่ทำค้างให้กิ่งเลื้อย เพราะกิ่งพันธุ์ขณะนั้นยังเล็กอยู่ จึงต่อท่อหันมาใช้ระบบน้ำหยด จนต้นเติบโตให้ผลผลิต จึงเริ่มขยายกิ่งพันธุ์มาปลูกจนเต็มพื้นที่ดังกล่าว"
อดีตมนุษย์เงินเดือน กล่าวด้วยว่า ปีที่แล้วได้ผลผลิต 9.5 ตัน ปีนี้คาดว่าจะได้ผลผลิตมากถึง 15 ตัน ขายปลีกหน้าเพิงร้านลูกเล็กกิโลกรัมละ 35 บาท ตก 3 กิโลกรัม 100 บาท ลูกใหญ่กิโลกรัมละ 40 บาท ที่ผ่านมามีพ่อค้าจาก อ.ท่าอุเทน อ.นาแก และในตัวเมือง เหมารับซื้อราคาส่งถึงหน้าร้านและในสวนครั้งละ 200-400 กิโลกรัม ขายกิ่งพันธุ์มีรากกิ่งละ 50 บาทด้วย แต่ละวันจะทำเงินโดยยังไม่หักค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 บาท รวมๆแล้วจะมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเฉลี่ยปีละ 500,000 บาท แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ต้องขยันและอดทนมุ่งมั่นมานานนับ 10 ปี ผู้สนใจมาเยี่ยมชมสวนได้ทุกวัน หรือโทร. 09-3239-0836