ต่อจากนั้นเวลา 18.25 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.อ.เกษม อยู่สุข เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญพวงมาลาพระราชทานส่วนพระองค์ มาวางหน้าโกศศพ พร้อมพวงมาลาพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในการนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โปรดให้คุณหญิงเพ็ญศรี ไชยยงค์ เป็นผู้แทนพระองค์เชิญน้ำส่วนพระองค์มาประทานอาบศพ
ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกศมณฑป ฉัตรเครื่องสูงทองแผ่ลวดตั้งประดับเกียรติยศ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และทรงรับศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด มีพระพิธีสวดพระอภิธรรมเวลากลางคืน กำหนด 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความเรียบง่าย โดยมีผู้มาร่วมไว้อาลัยคับคั่ง อาทิ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผอ.สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ , พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนนายกรัฐมนตรี, ม.ล.อนุพร เกษมสันต์ ณ อยุธยา, คุณจันทนีย์ ธนรักษ์ รองราชเลขาธิการ ,ม.จ.มงคลเฉลิม ยุคล และศ.(พิเศษ)ธงทอง จันทรางศุ นอกจากนี้ยังมีบุคคลต่างๆนำพวงหรีดมาแสดงความอาลัยจำนวนมากจนในบริเวณบ้านมีที่วางไม่เพียงพอ จึงต้องนำไปวางตลอดเส้นทางเข้าบ้าน
น.ส.ณพอาภา เทวกุล ณ อยุธยา อายุ 32 ปี หลานสาวคนโต เปิดเผยว่า เหตุที่จัดงานศพที่บ้านถนนเพชรบุรีเนื่องจากคุณตาได้บอกกับลูกหลานไว้ ซึ่งเป็นความตั้งใจของท่าน บ้านหลังนี้มีความหมายต่อท่านมาก เนื่องจากเป็นบ้านพระราชทานเป็นของขวัญวันแต่งงานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นสถานที่คุณตารักที่สุด งานศพของคุณทวดก็จัดที่บ้านมาตลอดไม่ได้จัดที่วัด เพราะทางครอบครัวอยากให้อยู่กับลูกหลาน ไม่อยากทิ้งท่านไว้ที่วัด เวลาครอบครัวมีงานสำคัญ เช่น งานวันคล้ายวันเกิด มักจัดที่บ้านมาโดยตลอด โดยคุณตาสั่งไว้ว่าให้จัดงานอย่างเรียบง่ายที่สุด ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก และด้วยความที่เป็นคนโบราณจึงสั่งให้บรรจุศพในโกศตามประเพณีโบราณ