"การุณ"ติงครูพละปาแก้วใส่นักเรียน ใช้อารมณ์มากไป ย้ำโทษต้องไม่ต่ำกว่าตัดเงินเดือน จะได้เตือนสติ
ความคืบหน้าจากกรณีที่ นส.นฤดี จอดสันเทียะ หรือน้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ถูกนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูวิชาพละศึกษา ของโรงเรียนขว้างปาแก้วกาแฟถูกกกหูด้านซ้าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บใบหน้าเสียโฉม ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท นั้น และล่าสุดทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 ได้มีคำสั่งย้ายนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก ครูพละศึกษาที่ก่อเหตุ ไปช่วยราชการที่โรงเรียนบุญวัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา จนกว่าผลการสอบสวนจะเสร็จสิ้น นั้น
ด้าน นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า นายชูเกียรติ วิเศษเสนา ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) 31 จ.นครราชสีมา ได้รายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวมาถึงตนแล้ว ว่า ครูได้มีการโยนแก้วจริง แต่เป็นการโยนใส่ผนังโดยเจตนาเพื่อที่จะปรามนักเรียนให้สงบ แต่บังเอิญแก้วกระดอนไปโดนเด็ก โดยเด็กไม่ได้มีอาการบาดเจ็บทันที ยังคงเล่นกีฬากับเพื่อนๆ และเรียนหนังสือต่อได้ทั้งวัน จนเช้าวันรุ่งขึ้นจึงพบอาการผิดปกติ
ทั้งนี้ ทาง สพม.31 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เพื่อพิจารณาโทษครูคนดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะสรุปผลการพิจารณาโทษทางวินัยได้ภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับไปว่า ต้องพิจารณาลงโทษให้เหมาะสมกับฐานความผิดด้วย
"โดยส่วนตัวผมมองว่า เหตุการณ์นี้เป็นเพราะครูใช้อารมณ์มากไป จนทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจโยนแก้วใส่ตัวเด็ก แต่คนเป็นครูต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ให้ได้ ซึ่งผมเข้าใจว่าหลังเกิดเหตุนี้แล้ว ครูก็รู้สึกทุกข์เหมือนกัน แต่เมื่อทำความผิดแล้วก็ต้องยอมรับผลของการกระทำ และโทษต้องไม่ต่ำกว่าตัดเงินเดือน จะได้เป็นข้อเตือนสติ ว่า ต่อไปอย่าใส่อารมณ์กับเด็ก" นายการุณ กล่าว และว่า สำหรับกรณีที่เด็กต้องการย้ายโรงเรียน เพราะรู้สึกไม่สบายใจนั้น ตนได้มอบหมายให้ ผอ. สพม.31 ประสานกับผู้ปกครองและเด็กแล้ว ว่าหากต้องการย้ายไปเรียนที่โรงเรียนไหน ก็ขอให้แจ้งเพื่อให้ทาง สพม.31 ดำเนินการให้ตามที่ร้องขอ เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองเกิดความสบายใจ