เหตุการณ์วันนั้นเป็นอย่างไรเล่าให้ฟังหน่อยครับ?
"วันนั้นเป็นวันที่ 8 สิงหาคม ครูเขาจะให้เล่นตะกร้อ ชั่วโมงนั้นเป็นชั่วโมงพละ ภาคเช้า นักเรียนมีทั้งหมด 34 คน ผู้หญิง 5 คน จากนั้นครูก็ให้นั่งอยู่หน้าห้อง ก็จะมีคนที่นั่งอยู่ในร่มบ้าง โดดแดดบ้าง แล้วพอครูเขาเข้าไปในห้องไปทำฉลากจับแบ่งทีม หนูก็เลยลุกขึ้นยืนเพื่อหลบแดด กับเพื่อนอีกประมาณ5-6คน แล้วเหมือนครูเขามองผ่านหน้าต่างออกมา เหมือนเราขัดคำสั่งหรือเปล่า พอเขาเห็นเขาเดินออกมาแล้วก็ปาแก้วมาก่อน เป็นแก้วเซเรมิก แก้วกาแฟ เค้าขว้างมาโดนตรงกกหูซ้าย แก้วพุ่งมาที่หนู กกหูซ้าย ก็แรงนะคะ พอโดนปุ๊บก็เขียว และก็ช้ำค่ะ โดนข้างซ้าย ตอนนั้นก็ช็อคค่ะ พอปาเสร็จอาจารย์ท่านนั้นก็บอกว่าพวกมึงจะยืนกันทำห่าอะไร กูสั่งให้มึงนั่งไม่ใช่หรอ ทำไมพวกมึงไม่นั่ง เนี่ยกูกะจะปาให้หัวมึงแตกเลยนะ อาจารย์เกษียรปีหน้าค่ะ"
จากนั้นน้องทำอย่างไร?
"ก็มานั่ง ตอนนั้เพื่อนก็ถามว่เป็นไงโดนไหม หนูก็บอกว่าโดน เขาถามว่าเจ็บไหม หนูก็บอกว่าเจ็บค่ะ จากนั้นก็เรียนตามปกติ เขาก็ให้เก็บแก้วไปคืน หนูก็เก็บแก้วส่งให้เพื่อนข้างหน้าไปคืน ก็กลับบ้านปกติ"
อาการมาเริ่มตอนไหน?
"ตอนเช้าวันที่ 9 ค่ะ หนูจะไปอาบน้ำแต่งตัว พอล้างหน้าน้ำมันเข้าตา หนูก็เลยงง ว่าน้ำมันเข้าตาได้อย่างไร บ้านปากอยู่ดีดีน้ำมันก็ไหลออกมา ทำไมมันเก็บน้ำไม่ได้ ก็ตกใจค่ะ หนูก็เลยดูกระจก แล้วก็ลองยิ้ม ยักคิ้ว หลับตา คือหน้าด้านซ้ายมันขยับไม่ได้เลย เลยไปบอกแม่ บอกว่าเมื่อวานโดนครูเอาแก้วปาใส่หน้า มันจะเกี่ยวกันไหม แม่บอกว่าเกี่ยวสิ ก็เลยพาไปหาหมอ คุณหมอก็เลยบอกว่ากล้ามเนื้อมันบวมทับเส้นประสาท เพราะได้รับการกระแทกจากของแข็ง กล้ามเนื้อตรงเส้นประสาท คู่ที่ 7 มันบวมและก็ทับเส้นประสาท จะทำให้มีอาการปากเบี้ยว"
หมอบอกวิธีการรักษาไหม?
"หมอก็บอกว่ากล้ามเนื้อมันบวม ต้องให้มันหายเอง เค้าก็เลยส่งไปที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดเค้าก็เลย ให้เครื่องไฟฟ้ามากระตุ้นเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อมันตายเพราะว่าไม่ได้ทำงาน คือก็ต้องกระตุ้นไปเรื่อย ๆ เวลายิ้มปากก็เบี้ยว ปากข้างขวามันจะขึ้นไป กล้ามเนื้อด้านซ้ายไม่ทำงาน พอลองหลับตาแล้วตาข้างนึงไม่สามารถปิดตาได้ นั่นก็คือข้างซ้าย ตอนนี้ตาก็เริ่มพล่า แสบตา จอประสาทตาก็เริ่มเสื่อม"
ล่าสุดผอ.ทางโรงเรียนได้ออกมาบอกว่าครูพละปาใส่กระจกแล้วกระเด็นมาโดนหน้าหนู?
"ไม่ค่ะ โดนหน้าหนูเลย คนอื่นก็เห็นค่ะ แต่เพื่อนส่วนใหญ่ไม่กล้ามาเป็นพยานให้ค่ะ"
ถามคุณอาบ้าง ในกรณีของค่าเสียหายและค่ารักษาได้มีการตกลงกันอย่างไรบ้าง?
"คือเราเจรจากัน3ครั้ง ครั้งแรกข้อตกลงของเราให้รับรักษาน้องจนหายดีเป็นปกติ แล้วผลตรวจของคุณหมอบอกว่าอาจจะได้ผ่าตัด 3 แสนไม่อยู่แน่นอน แจ้งทางอาจารย์เขาไปว่าเราขอค่าที่จะรักษาน้องสามแสนบาท เราอยากให้เรื่องมันจบเราไม่อยากให้เรื่องมันดัง เพราะหนึ่งน้องก็ยังรียนอยู่ที่นั่น ตอนที่พูดคุยกันอยู่ยังไม่เป็นข่าวออกมา ซึ่งทางโรงเรียนบอกว่าจะรับไปพิจารณา วันที่ 2 กันยายนนัดมาเจรจาครั้งที่สอง ก็ข้อตกลงก็ให้รับรักษาน้องจนหายดีเป็นปกติเหมือนเดิม เขาตกลงแล้วข้อที่สองเราก็ยันว่าขอค่ารักษาพยาบาลน้องตามจริงตามที่หมอแนะนำมา สามแสนบาทเหมือนเดิมทีนี้ทางโรงเรียนได้ขอต่อรองเหลือสามแสนเก้า แล้วทางโรงเรียนยังไม่ตกลงนะคะ จากนั้นเขาก็บอกว่าจะรับไปพิจารณา แล้ววันที่ 12 กันยายนค่อยนัดมาเจอกันอีกทีหนึ่ง เป็นการเจรจาครั้งที่ 3 เราก็ยังยืนยันว่าให้รับรักษาน้องจนหายดีเป็นปกติ แต่ทางโรงเรียนชักจะแบบไม่ค่อยโอเคแล้ว เพราะรู้ว่าค่าใช้จ่ายมันสูง แล้วเขาก็เสนอมาว่าให้แปดหมื่นรวมค่ารักษาพยาบาลที่ให้ก่อนหน้านี้ จะให้แปดหมื่นบาท รวมค่ารักษาก่อนหน้านี้คือ สี่หมื่นเก้าสิบเก้าบาท รวมเป็นแสนสองทั้งหมดนี้รวมค่ารักษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งก็ไม่ถึงกับกำหนดที่เราตั้งไว้ ทางครอบครัวก็เลยไม่ตกลง แล้วทางโรงเรียนเสนอให้อีกสองหมื่น เป็นหนึ่งแสนสี่หมื่นเก้าสิบเก้าบาท แล้วทางครอบครัวก็ไม่ตกลงค่ะ เพราะเราทราบแล้วว่าค่ารักษามันเกินกว่านั้น ถ้าเขาให้มาแสนหนึ่ง แล้วที่เหลือเราจะเอาจากไหน ต้องหาจ่ายหรอ พอตกลงกันไม่ได้ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายแล้วกัน"
ณ วันนี้สรุปแล้วมันเป็นยังไง ตั้งแต่ที่เป็รข่าวมาแล้วมันเป็นอย่างไร?
"ตั้งแต่เป็นข่าวเมือ่วานนี้ทางโรงเรียนยังไม่ได้โทรมาเลยนะคะ ตอนที่น้องเป็นแบบนี้ก็พูดคุยกับอาจารย์ที่ปา ประมาณสองครั้งก่อนที่จะมาถึงโรงพัก อาจารย์พละเขาไม่ได้ออกมาพูดอะไร ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้พูดอะไร ได้เจอเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร และก็เจอตอนที่มาเจรจาที่โรงพักค่ะ สองครั้ง อาจารย์คนที่กระทำนั่งนิ่งอย่างเดียวไม่พูดอะไร แต่ครั้งที่ 3 อาจารย์คนนี้ไม่ได้มาค่ะ มาแต่ภรรยา ภรรยาเขาพูดมาว่ายิ่งรักษายิ่งหมดเงินไปทั้งหน้าเยอะ คือ ณ ตอนนั้นมันเจรจาตกลงกันไม่ได้แล้ว"
ณ ตอนนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปคะทางเรา?
" ณ ตอนนี้ก็ต้องขอขอบคุณมางมูลนิธิปวีณาหงสกุลที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย ติดต่อโรงพยาบาลยันฮีให้ จะรับรักษาน้องจนกว่าน้องจะหาย และกระทรวงยุติธรรมก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยแล้ว ทั้งสองทางเลย ท่านได้ส่งทนายมาสอบถามเรื่องนี้ด้วย"
คุณหมอบอกไหมคะว่าจะหาย?
"ถ้าภายในหกเดือนไม่หาย น้องจะอยู่ในลักษณะนี้ไปตลอดชีวิตค่ะ"
ส่วนเรื่องของคุณครูละ?
"ก็เป็นไปตามข้อกฎหมายเลยแล้วกัน แจ้งความเรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมค่ะ"
ตัวน้องเองจะเรียนที่นี่ต่อไปไหม?
"ไม่ค่ะ เทอมสองว่าจะย้าย"
สุดท้ายอยากจะขอบคุณใครไหมครับ?
"ก็อยากจะขอบคุณคุณปวีณา และก็พี่ ๆ สื่อโซเชี่ยลและก็ทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจหนูทุกช่องทางต่าง ๆ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ"