ล่าสุดนายนิพนธ์ ภักดีแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ว่า มีทั้งจริงและไม่จริง โดยส่วนใหญ่จะคลาดเคลื่อน หลังเกิดเหตุตนและบุคลากรทางการศึกษามิได้นิ่งเฉย เอาใจใส่สอบถามสารทุกข์สุขดิบมาตลอด จากการสอบถามพยานที่เกี่ยวข้อง ระบุนายไพฑูรย์ได้ปาแก้วพลาสติกจริง มีเจตนาต้องการให้น.ส.นฤดีและเพื่อนๆที่กำลังเล่นส่งเสียงดังอยู่หลังห้องเรียนให้หยุดพูดคุย ให้ความสนใจสิ่งที่เป็นสาระ
"ครูยืนยันปาแก้วใส่ฝาผนังห้อง แต่แก้วกระเด็นกระดอนมาถูกใบหน้าลูกศิษย์ เบื้องต้นไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นมีอาการผิดปกติ ทางโรงเรียนจัดรถนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ แต่อาการไม่ดีขึ้นก็ย้ายไปรักษาที่รพ.มหาราช นครราชสีมา เมื่อถึงเวลานัดก็นำไปพบแพทย์รวม 6 ครั้ง ต่อมาครอบครัวได้แจ้งจะขอเดินทางไปพบแพทย์เองและต้องการย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลเซนต์เมรี่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เสนอขอค่ายานพาหนะ 1 พันบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 1 พันบาท ครูคู่กรณีก็มิได้ปฏิเสธได้ดำเนินการตามที่ร้องขอ"นายนิพนธ์กล่าวและว่า นอกจากนี้ค่ายาและค่าปรึกษาแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนเกินที่ไม่สามารถใช้สิทธิเบิกได้ เราได้รับผิดชอบเป็นจำนวนเงินประมาณ 8 พันบาท รวมทั้งตลอดเวลาที่ลูกศิษย์รักษาอาการบาดเจ็บ ตนพร้อมครูได้นำกระเช้าของขวัญไปเยี่ยมด้วย
ผอ.โรงเรียนกล่าวว่า ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ทางครอบครัวเด็กได้นัดเจรจาตกลงกับนายไพฑูรย์ที่สภ.โชคชัย ต่อหน้าพนักงานสอบสวน โดยร้องขอเงินเป็นค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญรวม 3 แสนบาท แต่นายไพฑูรย์สามารถจ่ายให้ได้ไม่เกิน 1 แสนบาทจึงตกลงกันไม่ได้ ครอบครัวผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนายไพฑูรย์เป็นผู้ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ดำเนินตามที่ต้องการ
นายนิพนธ์กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมพร้อมสอบปากคำพยาน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม การดำเนินการลงโทษทางวินัย ฐานกระทำเกินกว่าเหตุเป็นเหตุให้นักเรียนบาดเจ็บ สพม.31 นม. ได้ออกคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง อยู่ระหว่างแสวหาข้อมูล ส่วนการกล่าวหาโรงเรียนไม่รับผิดชอบ ขอยืนยันไม่เป็นความจริง เราได้ช่วยเหลือเยียวยาตามที่ร้องขอมาตลอด จึงขอความเป็นธรรมด้วย