สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ส่งผลให้มีผู้ได้รับอาการบาดเจ็บติดค้างภายในลิฟต์ ตั้งอยู่ระหว่าง ซอยศรีนครินทร์ 20-22 ถนนศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพ.ต.อ.กิตติกร บุญสม รอง ผบก.น.5 ร.ต.อ.สุทัศน์ ฐานบำรุง รอง สวป.สน.คลองตัน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ก่อนประสานรถน้ำจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร จำนวน 5 คัน เข้าช่วยฉีดน้ำ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 6 ชั้น ปลูกติดเรียงกันหลายคูหา บริเวณชั้นที่ 6 ของอาคารเลขที่ 906-908 ซึ่งเปิดเป็นบริษัท เลเธอร์ แคเลอรี่ จำกัด ประกอบกิจการผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์รองเท้าและกระเป๋าหนัง ภายใต้แบรนด์ ST.JAMES, TREND, GINZ พบแสงเพลิงกำลังพวยพุ่ย โหมกระหน่ำอยู่ที่บริเวณชั้นดังกล่าวเสียหายทั้งชั้น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันฉีดน้ำสกัดกั้น ซึ่งระหว่างนั้นทราบว่ามีผู้ติดค้างอยู่ภายในลิฟต์บริเวณชั้นที่ 5 จึงประสานนำอุปกรณ์เครื่องมือตัดถ่าง เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนโดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จนสามารถนำตัวผู้บาดเจ็บออกมาได้ ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นฤมล จึงรัตนนากุล อายุ 38 ปี ตำแหน่งเลขานุการของบริษัท อยู่ในอาการนอนหมดสติถูกไฟคลอกตามทั่วร่างกาย ก่อนทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นพร้อมทั้งเร่งนำส่งโรงพยาบาลวิภาราม เพื่อรักษาอาการ แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบสวนน.ส.รจนา เรืองศิริ อายุ 36 ปี หัวหน้าแผนกตรวจสอบคุณภาพสินค้า ให้การว่า โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ตนเดินทางเข้ามาเปิดบริษัทเพื่อรอให้พนักงานทั้งหมดจำนวนกว่า 50 ราย เข้ามาทำงานกันตามปกติในช่วงเวลา 09.00 น. ระหว่างนั้นตนได้กลิ่นเหม็นไหม้จากชั้นบน จึงตัดสินใจขึ้นลิฟต์ไปดูที่ชั้น 3 แต่ก็ยังไม่พบแสงเพลิงจึงลงมาชั้นล่าง เพื่อนำกุญแจขึ้นไปเปิดห้องเก็บเอกสารที่อยู่บริเวณชั้นที่ 6 เมื่อเดินขึ้นไปตรวจสอบอีกครั้งก็พบแสงเพลิงกำลังพวยพุ่งโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง จึงใช้ถังดับเพลิงเคมีฉีดสกัดกั้น แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้จึงรีบวิ่งลงมา ขณะนั้นเมื่อมาถึงบริเวณชั้นที่ 5 ตนได้ยินเสียงมีคนเคาะประตูลิฟต์จากด้านใน จึงรีบวิ่งลงมาด้านล่าง ก่อนแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟ ซึ่งติดอยู่กับฝาผนังก่อนลุกลามกล่องสินค้าที่วางอยู่บริเวณชั้นที่ 6 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีพื้นที่เสียหายทั้งหมดประมาณ 40 ตารางเมตร หลังจากนี้จะประสานให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปหาสาเหตุที่แท้จริงพร้อมทั้งประเมินค่าความเสียหายต่อไป