นายสุธน วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาร่วมกันแล้วมีมติเสนอสั่งปิดแกรนด์แคนยอนหางดงชั่วคราว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตามเกณฑ์การลงโทษทางปกครอง ที่ระบุไว้ว่า หากกระทำผิด ครั้งแรกปิด 15 วัน หากมีครั้งที่ 2 ปิด 30 วัน หรือหากเกิดเหตุซ้ำซาก ต้องปิดถาวร
‘คณะกรรมการฯยังมีความเห็นร่วมกันให้เจ้าของผู้ประกอบการปรับปรุงสถานที่ให้ได้มาตรฐาน ในเรื่องของการจัดคิวกระโดดน้ำ ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นมาอีก และต้องมีเจ้าหน้าที่จัดคิว คอยกำกับดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวบนฝั่งด้วย โดยนำข้อสรุปทั้งหมด เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการฯ ในการพิจารณา' นายสุธน กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา วิมลไชยจิต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) เชียงใหม่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี ว่า ขณะนี้ยังรอผลการชันสูตรของแพทย์ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะ พร้อมทั้งสั่งสอบพยานเพิ่มเติม ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องในเรื่องของความประมาท ซึ่งหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจน ส่วนทางผู้ประกอบการต้องดูในรายละเอียด มีข้อบกพร่องหรือประมาทร่วมหรือไม่ โดยจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
สำหรับ ‘แกรนด์แคนยอนหางดง' แห่งนี้ เป็นของนายฉัตรกรินทร์ ตระกูลอินสัน กำนันตำบลน้ำแพร่ เดิมเป็นบ่อดินเก่าที่ขุดหน้าดินขายไป เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว จนล่วงเลยมาเป็นเวลานานกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ บางจุดลึกถึง 50 เมตร น้ำภายในแอ่งดังกล่าวสีเขียวใสเหมือนสีของมรกต ประกอบกับมีคันดินเป็นหน้าผาสูงกว่า 20 เมตร ลดหลั่นกันไปหลายแห่ง ทำให้ดูเหมือนกับแกรนด์แคนยอน (Grand Canyon) รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำตามธรรมชาติ จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวแห่กันมาทดลองความกล้า ด้วยการกระโดดจากหน้าผาสูงลงสู่พื้นน้ำ