ยังไม่อวสาน!! นางฟ้าคาราโอเกะ อดีตลูกจ้างเปิดปากแฉยับ

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ สภ.เมืองพัทยา น.ส.น้ำฝน จงธนกลม อายุ 28 ปี พร้อมด้วย ร.ต.สมสรรค์ อธิเวสส์ ทนายความตัวแทนกระทรวงยุติธรรม เดินทางเข้ามอบตัวกับ ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ลงวันที่ 19 ส.ค. 59 ในฐานความผิดร่วมกันกระทำการค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

น.ส.น้ำฝน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเคยทำงานเป็นแคชเชียร์อยู่ที่ร้านนางฟ้าคาราโอเกะ แต่ทำได้เพียงหนึ่งเดือนก็ลาออก กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 59 ร้านถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุม ในข้อหานำเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณี และค้ามนุษย์ โดย น.ส.ปะระนิสา หรือเจ๊เดียร์ ไชยนาพาณิชย์กุล ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ได้ให้แม่แท้ๆ ของตนซึ่งเป็นแม่ครัวของร้านสมอ้างเป็นผู้ดูแลร้าน กระทั่งแม่ของตนถูกตำรวจกับกุม โดย น.ส.ปะระนิสา รับปากว่าจะหาทางช่วยเหลือแม่ของตน

น.ส.น้ำฝน กล่าวต่อไปว่า ต่อมาเมื่อต้นเดือน มี.ค. 59 น.ส.เพ็ญนภา ประสงค์สุข น้องสาวต่างบิดาของตน ซึ่งเป็นพนักงานดีเจของทางร้าน ถูก น.ส.ปะระนิสา แจ้งความจับในคดีลักทรัพย์ และถูกจำคุกเป็นเวลา 5 เดือน โดยระหว่างนั้นตนได้กู้เงินญาติเพื่อมาประกันตัวน้องสาว และเริ่มมีปัญหาบาดหมางกับ น.ส.ปะระนิสา เรื่อยมา

นอกจากนี้ น.ส.น้ำฝน อ้างว่า ครั้งหนึ่งตนเคยไปนำตัว ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) น้องสาวต่างบิดา วัย 13 ปี ซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านนางฟ้าคาราโอโกะ เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แต่กลับถูกคนในร้านเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าตนนำ ด.ญ.เอ ไปค้าประเวณีที่ชายหาดพัทยา ซึ่งต่อมาตนได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ต่อมาตนจึงเข้าร้องเรียนกระทรวงยุติธรรมจังหวัดชลบุรี เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับครอบครัว กระทั่งล่าสุดตนถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าว

สำหรับ ร้านนางฟ้าคาราโอเกะ เคยตกเป็นข่าวกรณี พ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต สว.กก.1 บก.สส.ภ.2 และ ร.ต.ท.จุตภูมิ ลิ้มศิริวัฒนกุล รอง สว.กก.1 บก.สส.ภ.2 นำกำลังบุกเข้าจับกุมหญิงสาวภายในร้าน พร้อมแจ้งข้อหาค้ามนุษย์ และไม่มีใบอนุญาตประกอบสถานบันเทิง ทำให้ น.ส.ปะระนิสา โทรไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในจังหวัดภาคใต้ แต่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวยังคงยืนยันที่จะดำเนินคดีกับทางร้าน เป็นเหตุให้ในเวลาต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้โทรหา น.ส.ปะระนิสา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แต่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวไม่เชื่อเพราะคิดว่าเป็นการแอบอ้าง พร้อมบอกว่าจะสั่งปลด ผบ.ตร. เพราะช่วยเหลือผู้กระทำผิด ทำให้ต่อมา พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้โทรหา น.ส.ปะระนิสา และขอพูดสายกับชุดจับกุม แต่ชุดจับกุมก็ยังไม่เชื่อ จนในที่สุด ผู้การฯชลบุรี ได้โทรเข้าไปยังโทรศัพท์มือถือของ พ.ต.ท.นราวุธ ทำให้ชุดจับกุมทราบความจริงว่า ผบ.ตร.ตัวจริงโทรหา จนทำให้เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่โตในขณะนั้น