จากกรณีนายธวัชชัย อนุกุล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเมือง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในคดีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งอยู่ระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน ผูกคอฆ่าตัวตาย คาห้องขัง "ดีเอสไอ" คาดเครียดคดีทุจริตออกโฉนดรุกที่ดินอุทยานฯ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท โดยโดนจับเมื่อ 29 ส.ค. เตรียมนำไปฝากขัง พอตกดึกวันที่ 30 ส.ค. เจ้าหน้าที่พบใช้ถุงเท้าผูกคอกับบานพับประตู รีบนำส่งร.พ.ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งผลชันสูตรเบื้องต้นพบว่าเลือดออกในท้อง-ตับแตก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ก.ย. นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของ นายธวัชชัย อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจ.พังงา ที่เสียชีวิตจากการใช้ถุงเท้าผูกคอตายในห้องขังดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้เคลื่อนศพพี่ชายมาที่วัดบางหลวงแล้ว ในส่วนของตนเองนั้น ยังคงติดใจในการเสียชีวิตของพี่ชาย เนื่องจากถุงเท้าที่พี่ชายของตนใส่นั้นเป็นถุงเท้าที่สั้น ไม่สามารถที่จะนำมาผูกคอจนทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งตนอยากจะดูภาพกล้องวงจรปิดในห้องควบคุมของกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ทางดีเอสไอแจ้งมาให้ตนเองไปดูได้ ซึ่งภาพที่ให้ดูนั้นเป็นเพียงภาพบริเวณทางเดินเข้าออกห้องขังเท่านั้น ไม่สามารถให้ดูภาพขณะที่พี่ชายตนเองขณะถูกคุมขังอยู่ โดยทางดีเอสอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิ
นายชัยณรงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีในเรื่องนี้ ตนยังไม่สามารถที่จะกระทำได้ ต้องรอผลพิสูจน์อย่างละเอียดจากกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน สำหรับเอกสารจากโรงพยาบาลตำรวจที่ได้มานั้น เป็นเพียงเอกสารที่แจ้งสาเหตุการตายเท่านั้น
"การจัดพิธีศพนั้นเลื่อนการเผาศพออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อรอผลการพิสูจน์ จากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจอีกครั้ง ซึ่งปรึกษากับเจ้าอาวาสวัดบางหลวง เนื่องจากตัวเองนั้นถูกข้อครหา จากสังคมว่าการเร่งรีบในการเผาศพพี่ชายนั้น เป็นการทำลายหลักฐาน ซึ่งผมก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ สำหรับศพพี่ชายของผมนั้น กำลังประสานกับวัดว่ามีที่เก็บหรือไม่ หากไม่มีผมจะไปเก็บที่บ้านของผม แต่วันนี้จะทำพิธีวางดอกไม้จันทน์และพิธีเผาหลอก" นายชัยณรงค์ กล่าว