สุดรันทด!! แรงงานสาวไทยถูกลวนลามที่ไต้หวัน

นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้าน การบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย นาวาตรี วิวัฒน์ สุนทรจารุ พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ทีมทนายความและเจ้าหน้าที่จากกรมการจัดหางาน เดินทางมารับแรงงานสาวไทยวัย43ปี ถูกลูกชายนายจ้างชาวไต้หวัน ลวนลามกระทำอนาจาร และร้องขอความช่วยเหลือผ่านทางนายสงกรานต์ และมีญาติไปรอรับที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

แรงงานสาวไทยรายนี้ เดินทางไปทำงานที่ไต้หวันเมื่อปี57 เป็นลูกจ้างทำขนมได้ค่าแรงประมาณเดือนละ 20,000 บาท แต่ทำได้เพียง 7 เดือนถูกลูกชายของนายจ้าง ลวนลามกระทำอนาจารถึง 2 ครั้งได้ร้องขอความช่วยเหลือจากแรงงานด้วยกันจนรอดพ้นมาได้ และเมื่อเกิดเรื่องเป็นครั้งที่3 จึงตัดสินใจโทรแจ้งสายด่วนแรงงาน 1955 ของประเทศไต้หวัน เพื่อขอความช่วยเหลือให้พาออกจากที่พักเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย ทางเอเยนต์ที่ดูแลหางานให้ได้พาไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงแรงงานที่มีปัญหา ต่อมา ได้ขอความช่วยเหลือจากทนายสงกรานต์ โดยเขียนเรื่องราวร้องทุกข์ไปทางเฟซบุ๊ก จากนั้นได้เจ้าหน้าที่ไทยที่ไต้หวันพร้อมเอเยนต์ นัดนายจ้างมาพูดคุยเพื่อตกลงค่าเสียหายระบุว่า จะจ่ายเงินให้ตน 10,000 บาทและตั๋วเครื่องบินกลับ เพื่อแลกกับการที่ไม่ฟ้องร้องให้เป็นคดีแต่ไม่ได้ยอมรับเพราะยืนยันจะดำเนินคดี

จากนั้น เรื่องก็เงียบหายไปอีกจึงได้ปรึกษากับทนายสงกรานต์อีกครั้ง เมื่อทวงถามความคืบหน้าเจ้าหน้าที่แจ้งกับมาว่าตนอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานว่าถูกลวนลาม รวมถึงการดูแลแรงงานไทยในไต้หวันจากเอเยนต์ เนื่องจากทุกคนถูกหักเงินเดือน 1,800 บาท โดยไม่ได้แจ้งว่าหักไปเพื่ออะไร และเมื่อเกิดเรื่องราว ถูกเอารัดเอาเปรียบก็ไม่มีหน่วยงานหรือใครเข้ามาช่วยเหลือแรงงานไทย

นายสงกรานต์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องได้นำเรื่องราวการร้องทุกข์ของความช่วยเหลือได้ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีค้ามนุษย์ เพื่อให้ตรวจสอบบริษัทจัดหางาน ที่หาแรงงานไทยส่งไปทำงานที่ไต้หวัน และแนวทางการดำเนินการช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เพราะเป็นปัญหาสะสมมานานโดยทราบว่า เงื่อนไขเซ็นต์สัญญากับแรงงานคือ 3 ปีและทุกคนจะถูกหักเงินเดือนละตั้งแต่1,500บาท-2,000บาท ในตลอดระยะเวลาการทำงานที่ไต้หวันโดยอ้างว่าเป็นค่าเอเย่นต์และค่าล่าม รวมถึงให้มีการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ในต่างประเทศว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากมองว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการค้ามนุษย์

ทั้งนี้วันที่ 30 ส.ค.นี้เวลา 13.30 น.แรงงานสาวไทยรายนี้จะไปพบและให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

ที่มา : Posttoday.com