เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 23 สิงหาคม ที่สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ซ.อรุณอมรินทร์ 39 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. นายจักรพงษ์ ภิรมย์ อายุ 32 ปี พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มไฟท์คลับ ไทยแลนด์ ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจหลังออกรายการ"ต่างคนต่างคิด" ว่า กิจกรรมมวยข้างถนนที่กลุ่มตนได้จัดขึ้นมีจุดเริ่มต้นมาจากการชื่นชอบกีฬามวยเท่านั้น หลังจากนั้นจึงได้จัดการชกมวยและถ่ายคลิปวิดีโอลงโลกโซเชียล เพจเฟชบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Fight club Thailand
ส่วนการเปิดรับผู้ต่อสู่ที่เข้ามาชกนั้นจะเปิดรับในกลุ่มที่ตั้งขึ้น โดยจะเปิดรับสมัครตามน้ำหนักมีทั้งหมด 10 ไซด์ คือ 52-57,58-63,64-69,70-75,76-81,82-87,88-93,94-99,100-106 และ 107-113 กก. คนที่มาสมัครจะมาจากหลายที่ ไม่มีความขัดแย้งกันเป็นการส่วนตัว เมื่อถึงวันแข่งขันจะนำชื่อผู้ต่อสู้มาจับฉลากเพื่อหาคู่ชก ทั้งนี้ กติกาในการชกก็คล้ายกับมวยทั่วไป ห้ามเตะและต่อยจุดสำคัญ แต่เพิ่มกติการขี้นมาด้วยคือห้ามทุ่มและห้ามเหวี่ยง เพราะพื้นที่ที่ใช้ในการชกเป็นพื้นถนน หรือพื้นปูนทั่วไป อาจจะเกิดอันตรายได้
"เวลาที่ใช้ในการแข่งขันคือ 1 ยก 3 นาทีเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้เซฟตี้ในระหว่างการชกก็จะมีฟันยาง ผ้าพันมือและนวมเอ็มเอ็มเอ ส่วนเรื่องการดูแลหากเกิดบาดเจ็บระหว่างการชกจะมีการดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แต่ถ้าเป็นหนักจะนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที"สมาชิกไฟท์คลับ ไทยแลนด์ กล่าว
สมาชิกกลุ่มไฟท์คลับ ไทยแลนด์ กล่าวว่า กิจกรรมมวยข้างถนนนั้นได้จัดมาประมาณ 4-5 เดือน มีการชกมา 91 คู่ หรือ 182 คน มีแฟนเพจกว่า 4 หมื่นคน ไม่เคยเกิดปัญหาอะไร ซึ่งพวกตนมองว่ากิจกรรมนี้ก็เหมือนกับกีฬาทั่วไป เป็นการรวมกลุ่มของผู้ที่ชื่นชอบ การชกกันก็เหมือนกับการออกกำลังกายหรือการฝึกการป้องกันตัว พวกตนไม่ได้จัดการแข่งขัน ไม่มีผู้แพ้ไม่มีผู้ชนะ ไม่มีเงินรางวัล ไม่มีการพนัน หลังการชกทุกคนจะกลายมาเป็นเพื่อนกัน พูดคุยกินข้าวกันสังสรรค์กัน
"จากคนที่ไม่เคยรู้จักกันกลับมาพูดคุยกันรู้จักกัน เป็นเหมือนการสร้างอีกสังคมอีกความชอบหนึ่ง คนที่มารวมกิจกรรมหรือคนที่ไม่มีงานทำ พอมาพูดคุยกันก็แนะนำงานให้กันด้วย นอกจากนี้อาจจะเป็นการแก้ไขปัญหานักเรียนตีกัน หรือวัยรุ่นที่ชอบก่อเหตุทะเลาะวิวาท ให้เข้ามาแสดงออกในพื้นที่ที่จัดไว้ให้ "ให้รู้ว่าวิถีลูกผู้ชายมีจริง 1ต่อ1ไม่มีการลุม"หนึ่งในสมาชิกไฟท์คลับ ไทยแลนด์กล่าว
สมาชิกกลุ่มไฟท์คลับ ไทยแลนด์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้มีคำถามถามว่าถ้าชอบมวย ทำไมไม่ขึ้นเวทีมวย ต้องบอกว่าพวกตนเป็นแค่คนชื่นชอบ ไม่ได้เป็นนักมวยอาชีพ ตนมีอาชีพ มีความรับผิดชอบในด้านอื่น ๆ อยู่แล้ว ซึ่งการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นก็มาจากความชอบใช้เงินส่วนตัว หากหลายคนติเรื่องความปลอดภัย ตนก็น้อมรับและจะนำมาปรับปรุงให้ดีที่สุด ทั้งนี้เรามีเป้าหมายในการจัดกิจกรรมทั่วประเทศ จึงอยากให้หน่วยงานหรือใครที่เร่งเห็นความสำคัญในส่วนนี้เข้ามาช่วยสนุบสนุนทุนทรัพย์ เราจะไม่ขอหยุดกิจกรรมนี้เราจะเดินหน้าต่อไป