มีชัยรับดอกไม้จากประยุทธ์ ยินดีร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ

8 ส.ค.59 ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) รับมอบแจกันดอกไม้จาก นางฐะปาณีย์ อาจารวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร ในฐานะตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแสดงความยินดีหลังรับทราบผลออกเสียงประชามติอย่างไม่เป็นทางการ ว่าประชาชนเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง

โดย นายมีชัย กล่าวขอบคุณและซาบซึ้งในไมตรีของนายกฯ ทีเอื้อเฟื้อดูแลมาด้วยดีตลอด พร้อมติดตามการทำงานและชี้แนะข้อบกพร่องต่างๆ และจากนี้ กรธ.ก็ต้องทำหน้าที่ต่อไปอีกระยะหนึ่งจนถึงวันเลือกตั้ง โดยการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ คสช.ในวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.) จะร่วมประชุมในฐานะที่เป็นสมาชิก คสช.ไม่ได้ไปในฐานะ กรธ.ซึ่งคิดว่าการประชุมครั้งนี้ นายกฯ คงต้องการดูว่าจะเดินหน้าตามโรดแมปต่อไปอย่างไร ซึ่งขั้นต่อไปหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลอย่างเป็นทางการ กรธ.ก็จะมีเวลา 30 วัน เพื่อแก้ไขบทเฉพาะกาลร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง ซึ่งการจะใช้ระยะเวลาเต็ม 30 วัน หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตีความประเด็นคำถาม

สำหรับการพิจารณาประเด็นคำถามพ่วงจะต้องมีการหารือกันใน กรธ.ก่อน หากไม่มีปัญหาก็ไม่จำเป็นต้องถามทางผู้เสนอคำถาม โดยวิธีการจะดูจากตัวอักษรในคำถามเป็นเกณฑ์ แล้วจะมีขั้นตอนส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีก

สำหรับประเด็นที่ต้องคิดต่อไปจากคำถามพ่วง นายมีชัย กล่าวว่า ยังต้องศึกษารายละเอียด ทั้งหลักเกณฑ์นับคะแนนมติของรัฐสภา ในการเลือกนายกฯ ว่าจะให้ใช้เสียงข้างมาก เสียงมากขึ้นกว่าปกติ หรือเพียงให้มีเสียงของ ส.ว.ตามที่กำหนดอยู่ด้วย ซึ่งต้องตีความเจตนาให้ชัด หากบัญญัติเกินกว่าเจตนา ศาลรัฐธรรมนูญอาจชี้ว่าขัดก็ได้ รวมถึงยังมีกรณีหากไม่สามารถเลือกนายกฯ ตามบัญชีได้ ที่ประชุมรัฐสภาขณะนั้นจะสามารถลงมติยกเว้นเงื่อนไขได้คราวเดียวกันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม หากตีความโดยเบื้องต้นแล้ว การจะเสนอชื่อนายกฯ ไม่ว่าจะจากบัญชีรายชื่อหรือมีการยกเว้นเงื่อนไขแล้ว ก็ต้องทำโดย ส.ส.เพียงแต่ให้ ส.ว.มีส่วนรวมลงมติด้วยเท่านั้น

ขณะที่วาระของนายกฯ ที่เกิดขึ้นตามบทเฉพาะกาลนี้ ก็ให้เป็นไปตามปกติ แม้ที่มาของนายกฯ จะเกิดขึ้นจากการเลือกโดยรัฐสภาในระหว่างระยะเวลา 5 ปีแรก หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ แต่วาระนายกฯ สามารถเกินระยะเวลาเปลี่ยนผ่านตามเฉพาะกาลได้

ทั้งนี้ นายมีชัย ยังกล่าวถึงหลักเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยย้ำว่าสามารถทำได้ หากมีความเห็นร่วมกันตามที่บัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญ เว้นแต่บางเรื่องสำคัญ ที่ต้องมีการทำประชามติเพื่อถามความเห็นประชาชนด้วย

ส่วนกระบวนการออกกฎหมายลูก 10 ฉบับ ในระยะเวลา 240 วัน ที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่าอาจใช้เวลาไม่เต็มตามที่กำหนดก็ได้ ประธาน กรธ.กล่าวว่า กรธ. กำลังเริ่มคิดว่าจะทำกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับก่อน โดยระหว่างก่อนที่ร่างรัฐธรรมนูญจะบังคับใช้นี้ ก็จะประสานกันเป็นการภายในกับองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ

สำหรับการคงอยู่ของพรรคการเมืองหลังมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับใหม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า ข้อบังคับพรรคนั้นๆ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากขัดก็ต้องสิ้นสภาพไป

นายมีชัย กล่าวอีกว่า คงไม่มีการเสนอในที่ประชุมร่วม คสช.และ ครม.ให้ปลดล็อคเงื่อนไขพรรคการเมือง เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะในการร่างกฎหมายลูก เพราะสามารถขอความเห็นจากตัวบุคคลได้ เมื่อถามว่า จะมีการตั้ง กรธ.เพิ่มไม่เกิน 30 คน ตามที่ร่างรัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ เพื่อมาช่วยร่างกฎหมายลูกหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ต้องถาม กรธ.ท่านอื่นก่อน แต่ที่ผ่านมาพบว่า คนมีมากจะทำให้ทำงานยาก