พุทธะหอบหลักฐานโต้บุกรุกป่า เตรียมฟ้องหมิ่นสาวกธรรมกาย

พุทธะหอบหลักฐานโต้บุกรุกป่า เตรียมฟ้องหมิ่นสาวกธรรมกาย

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือหลวงปู่พุทธะอิสระ พระวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วิวรรธน์ หลีเกษม รองสารวัตร (สอบสวน) กก.4 บก.ป. เพื่อนำเอกสารหลักฐานและรายละเอียดโครงการลูกปลูกป่าให้พ่อ รวมทั้งภาพถ่ายกรณีที่เข้าไปปลูกป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติบ้านใหม่วังผาปูน ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ และในผืนป่าแห่งอื่นตามโครงการดังกล่าว มามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณาดำเนินคดี หลังจากเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา นายโลมิรันดร์ บุตรจันทร์ ประธานชมรมคนยอมตายเพื่อพระพุทธศาสนา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีพระสุวิทย์ ในความผิดฐานบุกรุกป่าสงวนฯ

พระสุวิทย์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากนายโลมิรันดร์ ได้ทำหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษยื่นต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับอาตมา โดยกล่าวหาว่าบุกรุกเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนฯ จากการทำโครงการลูกปลูกป่าให้พ่อ ซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่อง จึงมาแสดงเอกสารหลักฐานต่างๆ และรายละเอียดของการดำเนินโครงการนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อพนักงานสอบสวน โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนในการพิจารณา และหากเป็นความผิดก็ยินยอมให้ดำเนินคดีเพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ถูกต้องต่อสังคม

"การเคลื่อนไหวที่ผ่านๆ มา อาตมาขอตั้งข้อสังเกตว่ามักจะมีกลุ่มชมรมแปลกๆ ที่ทางวัดพระธรรมกาย พยายามจัดตั้งขึ้นมาคอยหาเรื่อง สร้างความเสื่อมเสียให้อาตมาโดยตลอด ซึ่งในส่วนนี้คงต้องมีการตอบโต้กลับไปบ้างโดยจะมีการฟ้องร้องกลับในความผิดฐานแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาท ที่ศาลอาญา ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้" พระพุทธะอิสระ กล่าว

พระสุวิทย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของโครงการลูกปลูกป่าให้พ่อนั้น เป็นโครงการที่คิดและทำขึ้นเพื่อรักษาป่าไม้ให้ลูกหลาน อาตมาได้ร่วมกับทางกรมป่าไม้และชาวบ้านดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2528 ทำมาแล้วในหลายพื้นที่ เดิมพื้นที่ซึ่งเข้าปลูกป่าส่วนใหญ่จะเป็นเขาหัวโล้น จึงนำไม้ยืนต้นเข้าไปปลูกเพื่อให้ผืนป่ากลับมาเขียวชอุ่มเหมือนเดิม ก่อนจะคืนพื้นที่ให้กับทางกรมป่าไม้ ไม่ว่าจะเป็นที่ จ.กาญจนบุรี จ.เชียงใหม่ หรือในอีกหลายๆ พื้นที่ นอกจากนี้ยังเป็นการจัดทำโครงการเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วย แบบนี้หรือที่เรียกว่าเป็นการบุกรุก อีกทั้งโครงการส่วนใหญ่ที่ทำ ก็จะมีการลงนามในบันทึกความร่วมมือ หรือเอ็มโอยู กับทางกรมป่าไม้ แต่ก็มีบางแห่งเท่านั้นที่ไม่ได้ลงนามเป็นลายลักษณ์อักษร

พระสุวิทย์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าทุกครั้งที่จะทำโครงการ จะมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หรือข้าราชการประจำในท้องถิ่น และชาวบ้านในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าเป็นสักขีพยานด้วยทุกครั้ง แต่กลับมีคนบางกลุ่มคิดว่าอาตมาบุกรุกป่า ใช้พื้นที่สร้างโรงงานผลิตสมุนไพร หาผลประโยชน์ใส่ตัว ซึ่งอาตมาขอยืนยันว่าทุกโครงการที่ทำไม่เคยทำเพื่อหาประโยชน์ใส่ตัวแต่อย่างใด ในทางกลับกันวัดพระธรรมกาย ต่างหากที่มีการรุกล้ำพื้นที่ป่าไปใช้จัดสร้างรีสอร์ท บ้านพักหรู อีกทั้งยังมีการออกเอกสารสิทธิเป็นชื่อของพระบางรูป แต่อาตมาไม่เคยมีการออกเอกสารสิทธิหรือมีชื่อไปเกี่ยวข้องใดๆ เลย

ด้าน ร.ต.อ.วิวรรธน์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องและสอบปากคำพระสุวิทย์ ไว้แล้ว โดยจะมีการพิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ และนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป

 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์