อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ วิกฤติน้ำท่วม!

ศรีสะเกษ น้ำท่วมใหญ่ หลังฝนตกหนักเร่งระบายน้ำไม่ทัน


วันนี้ (8ส.ค.) ที่ จ.ศรีสะเกษ  หลังจากเกิดฝนตกอย่างหนักจนทำให้อ่างเก็บน้ำห้วยตาจู ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำออกจากอ่าง ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรใน 6 ตำบลของ อ.ขุนหาญ  และฝนยังตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในหลายพื้นที่ตำบลในเขต อ.ขุนหาญ ถูกน้ำไหลบ่าลงมาจากเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา เอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทำการเกษตรเสียหายกว่า 2 หมื่นไร่ และระดับน้ำได้เอ่อท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ ถนนลาดยางหลายสายถูกกระแสน้ำเซาะขาดรถยนต์ไม่สามารถผ่านเข้าออกตัวอำเภอขุนหาญได้  อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าช่วยเหลือแล้ว


จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้โรงเรียนปิดถึง 13 แห่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 โดยนายบัญชา บุญชู ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่การศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 ได้สั่งปิดโรงเรียนในเขต อ.ขุนหาญ ทั้งสิ้น 13 แห่ง นักเรียนกว่า 3,000 คน โดยเป็นโรงเรียนภายในเขตเทศบาล ต.ขุนหาญ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านเนินสูง โรงเรียนบ้านดาน โรงเรียนศรีวลัย โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรร โรงเรียนบ้านศิริขุนหาญ และโรงเรียนอนุบาลขุนหาญ ตั้งแต่วันที่ 7 - 9 สิงหาคมนี้ หรือจนกว่าสถานการณ์จะปกติ


สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ขุนหาญ ราษฎรได้รับผลกระทบ 6 ตำบล


ซึ่งมีทั้งหมด 21 หมู่บ้าน 1 เทศบาลตำบล จำนวน 1,343 ครัวเรือน ราษฎรกว่า 6,000 คน สัตว์เลี้ยงได้สูญหายจำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบมีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นายพิน ทองดี วัย 73 ปี ถูกน้ำพัดพา ซึ่งเป็นชาว อ.ศรีรัตนะ ไปทำนาในพื้นที่ดังกล่าว และมีผู้สูญหาย 2 คน ขณะนี้ได้ค้นพบและปลอดภัยทั้ง 2 คนแล้ว ขณะที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 211 ศรีสะเกษ -อ.ขุนหาญ ระหว่างบ้านแกเนียว-บ้านนนท์สว่าง ระยะทาง 2 กิโลเมตร น้ำท่วมถนนสูงเกือบ 70 เซนติเมตร

ซึ่งน้ำไหลเชี่ยวทำให้ผิวถนนพัง ทำให้ยานพาหนะไม่สามารถผ่านได้

รถยนต์เล็ก และรถจักรยานต์ ไม่สามารถสัญจรไปมาเส้นทางดังกล่าวได้ ทางจังหวัดจึงได้ออกประกาศเตือนรถเล็กห้ามสัญจรเส้นทางดังกล่าว ซึ่งจะไปติดต่อราชการระหว่าง อ.ขุนหาญ เป็นการชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ยกเว้นเฉพาะรถโฟร์วีลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จ.ศรีษะเกษ ยังได้นำธงแดงไปปักเป็นสัญลักษณ์ เพื่อเตือนอันตรายให้กับผู้สัญจรไปมาด้วย


ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัย "พายุดีเปรสชันในทะเลจีนใต้"

ฉบับที่ 23 (223 / 2550) วันที่ 8 สิงหาคม ว่า พายุดีเปรสชันได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามแล้วเมื่อคืนวานนี้ และเวลา 04.00 น. มีศูนย์กลางอยู่บริเวณจังหวัดหนองคาย หรือที่ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 104.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เคลื่อนที่ทางตะวันตกอย่างช้าๆ ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือมีฝนชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่


ดังนั้น ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตราย

โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งช่วงวันที่ 8-9 สิงหาคม 2550


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์