เจ้าของร้านนางฟ้าคาราโกะ วอนสังคมเข้าใจ ยอมรับร้านเคยถูกจับในข้อหา..

  เจ้าของร้านนางฟ้าคาราโกะ วอนสังคมเข้าใจ ยอมรับร้านเคยถูกจับในข้อหา..


จากกรณีที่ น.ส.ปะระนิสา ไชยนาพาณิชย์กุล อายุ 36 ปี และ น.ส.ปะระนิดา ไชยนาพาณิชย์กุล อายุ 22 ปี สองพี่น้องเจ้าของร้าน "นางฟ้าคาราโอเกะ" ย่านพัทยากลาง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท. นราวุธ การามหิโต สว.กก.1.บก.สส.ภาค 2 และ ร.ต.ท. จตุภุมิ ลิ้มศิริวัฒนกุล สังกัด กก1.บก.สส.ภาค 2 พร้อมพวก รวม 6 คน หลังเข้าตรวจค้นและพยายามแจ้งข้อหาค้าประเวณีและไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ ตามที่มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ในเวลาต่อมา ก็มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเดือนมกราคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการจับกุมที่ร้านนางฟ้าคาราโอเกะ ในข้อหาค้าประเวณี จึงทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า การบุกเข้าจับกุมอีกครั้งของเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะมีมูลความจริงอยู่ไม่น้อย และข้อสงสัยที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ น.ส.ปะระนิสา ไชยนาพาณิชย์กุล อายุ 36 ปี หรือ เดียร์ หรือ เจ๊สา ตัดสินใจโพสต์ข้อความชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นลงเฟซบุ๊กส่วนตัว Nisa Panitkul เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2559

โดย น.ส.ปะระนิสา ระบุว่า ร้านนางฟ้าคาราโกะ เคยถูกตำรวจ กก.3 บก.สส.ภ.2 จับกุมในข้อหานำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณีและค้ามนุษย์ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2559 จริง โดยในช่วงเวลานั้นที่ร้านมี น.ส.สมหมาย จงธนสกุล อายุ 49 ปี เป็นผู้ดูแล ส่วนที่มาที่ไป คือ ก่อนหน้าที่จะถูกจับกุมได้มี น.ส.แพร เดินทางมาสมัครเป็นพนักงานต้อนรับ หรือพีอาร์ ทำหน้าที่คอยต้อนรับและนั่งดื่มกับลูกค้าที่มาใช้บริการ ทั้งนี้ น.ส.แพร ได้นำสำเนาบัตรประชาชน ระบุว่า อายุ 19 ปี มาทำการสมัครงาน

หลังจากทำงานได้ระยะหนึ่งได้มีชายหนุ่มมาติดพัน น.ส.แพร หลังจากร้านปิดก็มักจะพากันออกไปเที่ยวต่อโดยทางร้านไม่ทราบว่าไปที่ไหน หรือไปทำอะไรกัน

ในวันเกิดเหตุ น.ส.แพร ได้ติดต่อไปหาชายคนดังกล่าวโดยอ้างว่า เอาโทรศัพท์ไปจำนำไว้ในราคา 500 บาท ขอให้เดินทางมาพบที่ร้านและช่วยไถ่โทรศัพท์คืนให้ด้วย ทั้งนี้ น.ส.แพร ได้เสนอตัวเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ต่อมา น.ส.แพร ขอออกไปกินข้าวกับลูกค้าชายคนดังกล่าว แต่ตามกฎของร้าน ห้ามพนักงานออกจากร้านก่อนเวลาเลิกงาน หากใครออกไปก่อนก็จะถือว่าขาดงาน และหักเงินวันละ 400 บาท ซึ่ง น.ส.แพร ได้ขอเงินกับลูกค้าชายคนดังกล่าว เพื่อมาจ่ายให้กับนางสมหมาย คนดูแลร้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องโดนหักเงิน

ภายหลังที่ น.ส.แพร และลูกค้าชายคนดังกล่าว ออกจากร้านไปได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สส.ภ.2 บุกเข้าจับกุมตัวนางสมหมาย ในข้อหาเป็นธุระจัดหาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาค้าประเวณี และข้อหาค้ามนุษย์ ก่อนส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากที่ตนทราบเรื่อง ก็เดินทางไปที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อประกันตัวนางสมหมายทันที ไม่ได้ไปขอเคลียร์คดี เนื่องจากร้านนี้เป็นของน้าแท้ ๆ ของตน ส่วน น.ส.แพร เองก็ไม่ได้ให้การซัดทอดมาถึงร้าน และเรื่องนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล

น.ส.ปะระนิสา กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนอยากขอความเห็นใจจากพี่ ๆน้อง ๆ นักข่าวด้วย เพราะตอนนี้ ข่าวที่ออกมามันกระทบร้านนางฟ้ามาก ๆ มันเหมือนร้านทำผิด ! ภาพลักษณ์ของร้านเหมือนเคยทำผิด ! ทั้ง ๆ ที่คดีนี้ ศาลยังไม่ตัดสิน และยังอยู่ในกระบวนการของศาล และนางสมหมายก็ต่อสู้คดีที่ถูกกล่าวหาอยู่ และถ้านางสมหมายจะมีความผิด ก็ผิดตรงขาดเจตนาที่ไม่ตรวจตราดูสำเนาบัตรประชาชนของ น.ส.แพรดี ๆ แต่เท่าที่ตนได้ดูสำเนาบัตรประชาชน ก็หน้าคล้าย น.ส.แพร มาก ๆ


  เจ้าของร้านนางฟ้าคาราโกะ วอนสังคมเข้าใจ ยอมรับร้านเคยถูกจับในข้อหา..




ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Nisa Panitkul

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์