นายสุนทร เปิดเผยว่า ตนยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ กับพฤติกรรมของนางไก่ เพราะตนทำหน้าที่เพียงขับรถให้นางไก่เท่านั้น หากใครรู้จักตนก็จะรู้ว่าตนเป็นคนอย่างไร โดยหลังจาก ที่ตนลาออกจากการทำงานกับนางไก่นั้น ก็ได้ไปอาศัยเป็นลูกวัดที่วัดนังคัลจันตรี จ.ปทุมธานีมาตลอด และยืนยันไม่เคยถูกนางไก่ข่มขู่เหมือนอดีตลูกจ้างรายอื่นๆ แต่อย่างใด สอดรับกับนายจักกฤตย์ กล่าวว่าการเข้าให้ปากคำในวันนี้ ก็จะเป็นเรื่องเดียวกับที่ได้ให้ปากคำไว้กับพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เมื่อวันที่14 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยขอเวลาให้นายสุนทรเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อน แล้วจะเปิดเผยรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง
ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมงพ.ต.ท.ชูศักดิ์ เปิดเผยว่า ประเด็นในการสอบปากคำนายสุนทร ในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นประเด็นคล้ายกับการที่นายโก้ให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน บช.น. แต่สิ่งที่ทางเราได้ขอสอบนายโก้เพิ่มเติมนั้นเพื่อให้ข้อเท็จจริงกระจ่าง ในเรื่อง ช่วงเวลาว่าตลอดเวลาที่นายโก้เป็นคนขับรถ นางมณตาเดินทางไปที่ใดบ้าง รู้จักกลุ่มผู้เสียหายคนใดบ้าง ตามข้อหาค้ามนุษย์ รวมทั้งพฤติกรรมความร่ำรวยของหญิงไก่ ซึ่งนายโก้ ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และให้ความร่วมมือในการสอบปากคำ แต่ในรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยการสอบปากคำวันนี้ นายโก้ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกับการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของตำรวจนครบาล จึงไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี เพราะเป็นเพียงคนขับรถที่มีหน้าที่พานางมณตาไปที่ต่างๆ จึงไม่ทราบเหตุการณ์ทั้งหมด แต่หากผู้บังคับบัญชามีความสงสัยเพิ่มเติม อาจต้องเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มซึ่งนายโก้ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ ตำรวจยืนยันคดีนี้เป็นคดีสำคัญ ประชาชนให้ความสนใจ ดังนั้นต้องทำความจริงให้ปรากฏ
ด้านนายสุนทร เปิดเผยหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ว่า ได้เข้ามาทำงานเป็นคนขับรถให้นางมณตาตั้งแต่ปี2552-2553 โดยในกรณีหญิงไก่แจ้งความดำเนินคดีกับอดีตลูกจ้างหลายรายนั้น ตนไม่ทราบในรายละเอียดว่ามีใครบ้าง ทราบเพียงกรณีของนางสาวจันทนา คชคงไทย หรือ หนูนาเท่านั้น ซึ่งรายละเอียดไม่ขอเปิดเผย รวมทั้งพฤติกรรมของหญิงไก่ว่ามีรถนำขบวนว่าไปที่ต่างๆ ตนยืนยันว่าตลอดเวลาไม่เคยมีรถนำขบวนแต่อย่างใด อีกทั้งยอมรับว่าเคยเดินทางรับส่งอดีตลูกจ้างนางมณตาที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อไปเยี่ยมบ้าน3-4วัน สำหรับพฤติกรรมการแจกทองให้ลูกจ้างคนอื่นผมไม่ทราบแต่สำหรับผมไม่เคยได้รับ ช่วงที่ทำงานตนมักจะอยู่นอกบ้านไม่ค่อยได้เข้าไปภายในบ้านจึงไม่รู้เห็นพฤติกรรมโดยรวมเท่าไหร่นักไม่ได้สุงสิงกับลูกจ้างคนอื่นๆด้วย เท่าที่สังเกตการปฏิบัติตัวต่อลูกจ้างก็ไม่มีท่าทีคุกคามหรือข่มเหง แต่นิสัยเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว เวลาโกรธจะโมโหร้าย พูดจาทิ่มแทงดุด่าต่างๆนาๆ ทั้งนี้หญิงไก่ ไม่ได้บอกว่าเป็นคุณหญิงกับลูกจ้าง ลูกจ้างเรียกเพียงว่า คุณนาย เท่านั้น ส่วนสามีหญิงไก่มักจะพบวันเสาร์กับวันอาทิตย์ เดือนละไม่กี่ครั้ง ที่คอนโดบ้านเคหะประชานิเวศ 1 ถ.เทศบาลนิมิตรเหนือ แขวงลาดพร้าว เขตจตุจักร กทม. ส่วนสาเหตุที่ลาออกหลักๆ คือเหนื่อยกับงานต้องขับรถออกต่างจังหวัดและรับ-ส่ง ไปยังสถานที่ต่างๆ อาจมีโดนดุด่าบ้างแต่ทนได้ การจ่ายเงินมีไม่ตรงเวลาบ้างก็แค่ 2-3 วัน แต่ก็ได้รับเงินตลอด
ทั้งนี้มีรายงานว่า การสอบปากคำนายโก้นั้น พบว่าในรายละเอียดบางอย่างนายโก้ยังให้การวกวนในบางประเด็น และมีพิรุธ แต่ยอมรับว่าเคยไปรับลูกจ้างที่จ.แม่ฮ่องสอนมาทำงานที่บ้านหญิงไก่ 2 รายคือน.ส.จันทนา คชคงไทย หรือหนูนา รวมทั้งหญิงสาวชาวลาวที่ชื่อว่า "กาบแก้ว" ในส่วนของการแจ้งข้อกล่าวหานางมณตา หรือหญิงไก่ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ตามหมายจับศาลทหารนั้น ในสัปดาห์หน้า ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหา ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง พร้อมกับดำเนินการอายัดตัวต่อไป