นภา กล่าวว่า ชีวิตตนนั้น เริ่มต้นเข้าสู่วงการมวยไทย จากการตามพี่ชายมาชกมวยไทยตั้งแต่เล็ก และพัฒนาฝีมือจนเก่ง จึงเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพ พอถูกชกคางหักเลยเลิกชนมวยไทยหันมาชกมวยสากล ถือเป็นการเข้ามาสู่วงการมวยสากล จึงได้แชมป์โลก ในปีพ.ศ.2531 ชกกับฮิโรกิ อิโอกะ ชาวญี่ปุ่น และได้แชมป์โลกที่ประเทศญี่ปุ่น
ตอนนั้นรู้สึกดีใจที่ทำสำเร็จได้เป็นแชมป์โลกแล้ว จากการมุ่งมั่นและขยัน ทำให้ได้อย่างที่หวังไว้ พอหลังจากได้แชมป์โลก รางวัลและเงินค่าตัวที่ได้จะขึ้นเรื่อยๆ ครั้งแรกได้ไม่เท่าไหร่ ไม่กี่แสนบาท ครั้งที่สองได้ 2-3 ล้านบาท และครั้งที่ 3 ได้ 6 ล้านบาท หักค่านู่นค่านี่ รวมแล้วเงินของตนได้ราว 8 ล้านบาท ช่วงนั้นการใช้เงินดีมากไปไหนมาไหนสบาย มีเพื่อนฝูงเยอะ
"จุดเปลี่ยนหลักจากได้แชมป์และออกจากวงการ เป็นเพราะประสาทตาเสีย กลับไปชกก็ไม่ไหวไม่งั้นตาจะบอดได้ ห่วงสุขภาพตนเอง และปัจจุบันยังคงมีอาการทางประสาท หรือเบลอ เกิดจากการได้รับการกระทบกระเทือนเพราะถูกชกเยอะ ตาก็พลาดมัว มองเห็นไม่ชัด ต้องกินยาตลอดแต่ตอนนี้ยาหมดและเงินไม่พอ
"พอออกจากวงการมวยเงินที่ได้มานั้นก็หมดไป ทั้งโดนโกง และใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายนำไปเที่ยวเล่นจนหมดภายในเวลา 4 ปี หลังจากนั้นชีวิตถือว่าตกอับ เพราะบางวันมีเงินติดตัว 100 บาท บางทีไม่ได้ไปไหน นั่งคิดนอนคิด แทบเอาตีนเกยหน้าผาก เพราะชีวิตไม่เคยเป็นแบบนี้เลย จะไปยืมเงินใคร เขาก็ไม่ให้ เพราะไม่มีเงินเหมือนเมื่อก่อน ต้องทำใจ"
ที่ผ่านมาได้รับจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 4 ปี ซึ่งอีกไม่กี่วันก็จะหมดสัญญารายได้จากกกท. ส่วนทางสภามวยโลก (WBC) ที่บอกจะช่วยเหลือ ผ่านมา 2 ปี ถึงทุกวันนี้ก็ไม่เคยเข้ามาช่วยเหลือ