เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 ก.ค. นายอนัตต์ณังธะโคตร หรืออาจารย์ชา ญาณ์ธนโชติ ชื่อตามบัตรประจำตัวประชาชน ได้สร้างความฮือฮาและความงุนงงขึ้นอีกครั้ง เมื่อพยากรณ์ อีก 13 ปี 4 เดือน โลกจะเกิดภัยพิบัติ คนจะตายทั่วโลกภายใน 7 วัน 4,000 กว่าล้านคน
อาจารย์ชา เปิดเผยว่า คือคนเราจะมานั่งหดหู่ว่าคนเราจะมาทะเลาะกันโน้นนี้ แย่งชิงไอ้นั้นไอ้นี่กัน แต่ถ้าหากเค้ารู้ว่าอีกไม่นานเค้าจะตายแล้ว เค้าก็จะไม่ต้องมานั่งแย่งชิงกัน แต่อาจารย์ขอบอกว่าอีกไม่นานแล้วเราจะตาย ไม่เกิน 13 ปี 4 เดือน เราจะเกิดภัยพิบัติขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ นั้นคือคนทั่วโลกจะตายพร้อมกัน ภายใน 7 วัน 4,000 กว่าล้านคน ประเทศไทยเราก็จะเหลือคนไม่เกิน 14 ล้านคนไม่เกินที่จะเหลืออยู่ เราคิดดูเถอะว่าเราจะเหลืออยู่ตรงจุดนั้นมั้ย แค่เรารู้ว่าเราจะตายก็ขอให้สร้างความดีกันเอาไว้
แต่ที่แน่นอนเลย อีก 13 ปี 4 เดือน เราจะเจอภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับโลกเรา ซึ่งจะเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ที่จะโคจรเข้ามาใกล้โลกมากที่สุด ดาวดวงนี้จะไม่ชนโลกแต่จะมาอยู่ใกล้โลกและเกิดรัศมีแม่เหล็ก ที่ทำให้โลกหยุดหมุน 7 วัน เมื่อโลกหยุดหมุนแล้วภัยพิบัติต่างๆก็จะเกิดภายใน 7 วันนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกจะเกิดความวุ่นวาย และจะตายกว่า 4,000 กว่าล้านคนบนโลก
"ขอให้ทุกคนอย่ามาเชื่ออะไร อย่าได้ประมาท หากไม่ตายใน 13 ปี นั้นก็จะตายสักวันหนึ่ง ดังนั้นเราต้องรีบทำความดีไว้เสียก่อน แต่ให้ตั้งสมมุติฐานไว้ 13 ปี 4 เดือน นับจากวันนี้ เพราะดาวดวงนั้นกำลังโคจรเข้ามาในกาแลคซี่เราอยู่ไม่มากนัก มันต้องคุยกับนาซ่า ก็จะได้มีความเข้าใจ คนธรรมดาบางครั้งหากไม่เข้าใจหาว่าเราเพ้อเจ้ออีก แต่สิ่งเหล่านี้ ทุกสิ่งที่พูดไม่ได้เพ้อเจ้อหรืองมงาย แต่เป็นเรื่องธรรมชาติล้วนๆ อาจารย์ไม่รู้หนังสือจริง แต่อาจารย์รู้ว่าดาวไหน โคจรอย่างไร"
อาจารย์ากล่าวว่า วิธีแก้คือการสร้างปิระมิด ให้มัความแข็งแกร่ง เพราะในตอนนั้นจะมีลูกเห็บตกลงมา ก้อนเล็กๆจะมีขนาดเท่ารถเก๋ง ใหญ่ๆก็จะเท่ากับรถสิบล้อ ซึ่งเราก็ไม่ต้องหลบแล้ว เพราะยังไงก็หลบไม่รอดตั้งแต่แผ่นดินไหว 15 ริกเตอร์แล้ว ซึ่งปิระมิดจะเป็นทรงสามเหลี่ยม ซึ่งพวกนี้ลงมาก็จะแฉลบ อาจารย์บอกได้ว่า ใน 7 วันนั้นอะไรที่จะเกิด เวลาไหนจะเกิดแผ่นดินไหวไม่ต่ำกว่า 15 ริกเตอร์ เวลาไหนที่คลื่นจะซัดเข้ามา ความสูง 350 เมตร
"ตอนไหนที่แผ่นดินประเทศอินเดียจะยุบลงไปเพื่อเกิดงอกขึ้นใหม่ และหลังจากนั้นเสร็จ เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ฝนจะตกหลังเพื่อน เพราะอากาศจะเริ่มแปรปวน เพราะโลกมันหยุดหมุนกันอยู่ โลกเราจะอยู่ด้านมืด ณ ตอนนั้น เราจะมองไม่เห็นอะไรกันเลย แต่หากเราสร้างปิระมิดหรือห้องนิรภัยนี้ ก็สามารถที่จะอยู่รอดได้ แต่เราต้องคำนวณให้ได้ว่าเราจะอยู่รอด 1 เดือน ซึ่งทุกเรื่องสามารถเกิดขึ้นได้และแก้ไขได้ แต่เราจะแก้ไขมันมั้ยอย่างไร"
อาจารย์ขอบอกตรงๆว่า เรื่องราวจะจริงมั้ย มันต้องมีการพิสูจน์ แต่อาจารย์กล้าที่จะพูด ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องนอกโลกที่ดูจะไกลไป แต่ก็มีเหตุมีผล ส่วนเรื่องปัญหาอะไรก็แล้วแต่ที่จะเกิดขึ้น ทุกอย่างมีวิธีแก้ไขหมด ส่วนเรื่องบ้านเมือง ปัญหาประเทศเราจะเป็นอย่างไร ต่อให้มีวิธีอาจารย์ก็ไม่อยากจะพูด จะก้าวก่าย แต่ว่าวันหนึ่งวันใด เค้าอยากให้อาจารย์เสนอความคิดบ้าง ก็ยินดีช่วย
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เมื่อแพร่หลายออกไปในเมืองระนอง ก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เป็นว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โดยประวัติอาจารย์ชา หรือ เดิมบวชเป็นพระภิกษุชื่อ พระศุภกิจ มหิทธโก หรือพระอาจารย์ชา อดีต เจ้าอาวาส วัดวังหอมพุทธาราม หมู่ 5 ต.วังอ่าง อ.ชะอวด จ.นครศีธรรมราช เคยมีข่าวอื้อฉาวพิสดารหลายเรื่อง ให้คนมาปฏิบัติธรรมกับม้า อวดอุตริ อ้างว่าระลึกชาติได้ มีญาณวิเศษติดต่อกับเทพเจ้าต่างๆ เทวดา ดวงวิญญาณ หรือภูตผีปิศาจ หรืออ้างว่ามีอภินิหาร เช่น มีบาดแผลเลือดไหลออกมากลายเป็นเกล็ดพระธาตุ
ต่อมาชาวบ้าน ม.5 ต.วังอ่าง ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมพิสดาร สร้างความเสื่อมเสียให้กับหมู่บ้าน จึงร่วมกันชุมนุมประท้วงและขับไล่ออกจากวัดวังหอมพุทธาราม เมื่อวันที่ 21 ก.ค.58 และไปจำวัดอยู่พื้นที่ บ้านนางย่อน อ.คุระบุรี จ.พังงา ได้ไม่นาน ก็ถูกชาวบ้านต่อต้านและขับไล่ออกมา จนกระทั่งมาปรากฎตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดระนอง และได้ลาสิกขาบทจากพระภิกษุสงฆ์ พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นนายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ และเรียกนามตัวเองใหม่ว่า อาจารย์ชา
พร้อมเปิดสถานปฎิบัติธธรรม บ้านพุทธธรรมชาติ ขึ้นที่บริเวณเนินเขากำพวน บ้านทรายขาว ต.กำพวน อ.สุขสำราญ จ.ระนอง และมีผู้เข้าร่วมปฎิบัติธรรมจำนวน ร่วม 80 คน ล้วนแต่งกายแนวแฟชั่น คล้ายกับชาวอาหรับ หรือชาวตะวันออกกลาง แต่เป็นชุดแต่งกายของกลุ่มผู้ถือศิล 9 ผู้ถือศิล 11 และถือศิล 15 ทั้งนี้มีการประกาศหลักคำสอน เปิดแนวคิดธรรมมะ 3 ประการ ซึ่งจะทำให้ครอบครัวและสังคมมีความสุขได้ คือ 1.อยู่เพื่อเข้าใจคนอื่น ไม่ใช่อยู่เพื่อให้คนอื่นเข้าใจเรา 2.เปลี่ยนความรักเป็นความเมตตา 3. เราผิดเอง