ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม รายงานข่าวจากบก.ป.แจ้งว่า สำหรับการติดตามตัวนายโก้ คนขับรถของหญิงไก่นั้น ทราบว่าได้ ประสานผ่านพระของวัดนังคัลจันตรี จ.ปทุมธานี ว่าจะเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ทั้งนี้มีรายงานว่าชุดสืบสวนพบความเคลื่อนไหวของนายโก้ ว่าหลังจากกบดานอยู่ที่วัดนังคัลจันตรี จ.ปทุมธานี แล้วได้เดินทางไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัว ในส่วนของการตรวจสอบประเด็นเรื่องการโอนย้ายเข้าทะเบียนบ้านของนางไก่นั้น พบว่านายโก้ได้แจ้งเข้าอยู่ที่บ้านหญิงไก่เมื่อวันที่10 กรกฎาคม 2552 และได้ย้ายออกเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2555 โดยเดินทางมาทำเรื่องย้ายเข้าออกบ้านหญิงไก่ด้วยตนเอง ที่สำนักงานเขตจตุจักร
ในส่วนการคลี่คลายคดีการหายตัวไปของเศรษฐินีที่จ.อุดรธานี หลังพบว่านางไก่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเศรษฐินีคนดังกล่าว นั้น มีรายงานว่า ชุดสืบสวนบก.ป.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ทราบว่าเศรษฐินีคนดังกล่าวคือ นางฉวีวรรณ ตั้งวิริยะกุล จากการสอบพยานและชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองอุดรธานี พบเบาะแสสำคัญ โดยพยานให้การว่า เมื่อราวปี 2546 นางไก่ เคยเข้ามาติดต่อขอซื้อที่จริง มาพร้อมกับนายปิติ ตั้งวิริยะกุล สามีเก่าของเศรษฐินี พร้อมกันนี้นางไก่ได้แสดงตนว่าเป็นคุณหญิง ทุกครั้งที่มาจะมีคนติดตาม บอดี้การ์ด และรถนำขบวนของตำรวจท่องเที่ยว มีนายตำรวจยศ ร.ต.อ.คอยติดตามมาด้วย จึงทำให้คนแถวนั้นเชื่อว่านางไก่เป็นคุณหญิงจริงๆ
สำหรับประเด็นที่ว่าเศรษฐินียังมีชีวิตหรือไม่นั้น ชุดสืบสวนพบข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2546 นางฉวีวรรณ เข้ารักษาตัวที่คลินิกหมออุดม อ.สว่างแดนดิน จ. สกลนคร และได้เข้ารักษาตัวเพียง 7วัน ก่อนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2546 จากนั้นได้นำศพเศรษฐินีไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีสว่าง จ.สกลนคร ก่อนจะฌาปนกิจศพในวันที่ 3 ธันวาคม ปีเดียวกัน ภายหลังการเสียชีวิตของนางฉวีวรรณ ที่ดินแปลงดังกล่าวถูกโอนเป็นกรรมสิทธิ์ของนายปิติ และถูกขายให้กับผู้อื่นในราคา8ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าในรายละเอียดการแจ้งตายของนางฉวีวรรณ มีนางมณตา หยกรัตนกาญ เป็นผู้แจ้งการตาย อย่างไรก็ตามปัจจุบันพบว่าที่ดินถูกปลูกสร้างเป็นบ้านพัก ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลว่าการขายที่ดินดังกล่าว หญิงไก่มีส่วนได้เสียหรือไม่ เนื่องจากชุดสืบสวนพบพิรุธและตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด ถึงต้องรีบจัดการศพโดยใช้เวลาเพียง 1 วัน
นอกจากนี้ชุดสืบสวนได้เดินทางไปที่วัดศรีสว่าง เพื่อสอบปากคำพระสงฆ์ที่วัดดังกล่าวพร้อมกับสอบปากคำสัปเหร่อ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยพระสงฆ์ได้ให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนว่ามีการตั้งศพไว้ที่วัดจริง และมีผู้ร่วมงานประมาณ 40-50 คน นอกจากนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำสัปเหร่อ รวมทั้งแพทย์ที่ทำการรักษานางฉวีวรรณว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใดเพื่อที่จะตัดประเด็นฆาตกรรม รวมทั้งอยู่ระหว่างการสอบปากคำเจ้าของที่ดินคนปัจจุบันเพื่อหาความเชื่อมโยง