ความคืบหน้ากรณีนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พา น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย อายุ 19 ปี นิสิตปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ให้ดำเนินคดีกับนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ อดีตนายจ้างหญิง ฐานแจ้งความเท็จ กรณีแจ้งความดำเนินคดีกับนายชูเกียรติ ใจกล้า นางประภาพร ทองเฟื้อง บิดา มารดา รวมถึงน้องก้อยในข้อหาลักทรัพย์ 11 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ขณะที่นางไก่แถลงข่าวโชว์หลักฐานภาพวงจรปิดในวันเกิดเหตุ พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์
ขณะเดียวกันนายสงกานต์ นำ น.ส.วณิชยา บุ้นสุนเฮง หรือน้องมีน บุตรนางสุกัลยา ศิริม่วง ผู้ต้องขังในเรือนจำที่ถูกนางไก่แจ้งความฐานลักทรัพย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดีแม่ฮ่องสอน พา น.ส.จันทนา คชคงไทย หรือหนูนา อายุ 25 ปี กับนายธนาธิป ศรีสิงห์ อายุ 32 ปี สามี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางไก่ ฐานแจ้งเท็จ เป็นรายที่ 2 และ 3 ก่อนที่นางไก่ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม(บก.ป.)และถูกแจ้งข้อหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พยายามค้ามนุษย์ และแจ้งเท็จ ก่อนคุมตัวฝากขังครั้งแรกพร้อมส่งตัวเข้าเรือนจำทัณฑสถานหญิงกลางนั้น
ล่าสุด นายสงกานต์ กล่าวว่า มีตำรวจสัญญาบัตร 2นายอักษรย่อ ก. และ ป. อาจมีส่วนพัวพันกับนางไก่ โดยนายตำรวจคนดังกล่าวมีความใกล้ชิด สามารถเข้านอกออกในบ้านนางไก่ ได้ และได้รับมอบหมายให้ดูแลกิจการคาร์แคร์ อีกทั้งเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้กับแม่บ้าน โดยเฉพาะ นางสุกัลยา มารดาน้องมีน นอกจากนี้ยังเปิดศูนย์รับจ้างจัดหางานร่วมกับ หญิงไก่ เพื่อจัดส่งคนไปทำงานตามที่ต่างๆ ตนและทีมงานให้ข้อมูลกับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ไปแล้ว โดยรับปากว่าจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว หากพบว่ามีมูลจะดำเนินการทันที