จากกรณี น.ส.ศศินา พิมพ์แพง หรือ "น้องหนูนา"วัย 18 ปี นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนมหาชัยวิทยาคม อ.ปลาปาก จ.นครพนม หญิงกำพร้าฐานะยากจน มารดาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งแต่วัย 6 ขวบ บิดามีภรรยาใหม่ ป่วยด้วยโรคมะเร็งเนื้อเยื่อระยะที่ 3 จนลุกลามไหล่ขวาน้ำหนัก 1 กิโลกรัม แบกรับความเจ็บปวดทุกคืนจนน้ำตาไหลพราก ซ้ำร้ายพี่สาวต้องลาออกจากงานมาช่วยป้าดูแลอีกแรง เป็นที่น่าเวทนาแก่คนทั่วไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
หาม “น้องหนูนา” เด็กม.4 แบกมะเร็งก้อนโตส่งรพ.หลังบาดแผลมีเลือดทะลัก-ยอดบริจาคพุ่ง 6 หมื่น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ก.ค. น.ส.ฐิติมา พิมพ์แพง วัย 26 ปี นายสมใจ พิมพ์แพง อายุ 59 ปี และนางสมัย พิมพ์แพง วัย 53 ปี พี่สาว-บิดา-และอา นั่งรถกู้ชีพโรงพยาบาลปลาปาก นำตัวน้องหนูนา ส่งรักษาต่อที่ห้องฉุกเฉิน รพ.นครพนม อย่างเร่งด่วน หลังน.ส.ศศินามีภาวะเลือดพุ่งทะลักออกจากแผลก้อนโต
น.ส.ฐิติมา พี่สาวน้องหนูนา กล่าวว่า ช่วงเช้าหลังน้องสาวนอนตะแคงทานข้าวและกินยาแก้ปวดอักเสบเสร็จ มีอาการปวดจากบาดแผลก้อนโตที่เป่งบวมหนักกว่า 1 กิโลกรัม ก่อนที่เลือดจะไหลทะลักพุ่งออก จึงรีบนำตัวส่งรักษาที่รพ.ปลาปาก แพทย์ยังไม่สามารถระงับเลือดที่พุ่งกระฉูดออกได้ จากนั้นความดันเริ่มลดต่ำลง จึงใส่เครื่องช่วยหายใจนานร่วม 1 ชั่วโมง จึงพร้อมด้วยญาติ รีบนำใบส่งตัวขึ้นรถกู้ชีพรพ.ปลาปาก ส่งตัวรักษาต่อที่รพ.นครพนม ในเวลาต่อมา แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและให้น้ำเกลืออยู่ตลอดเวลา หลังเคยเกิดภาวะเลือดไหลจนช็อกมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด แพทย์ให้นอนพักรักษาตัวรอดูอาการที่ตึก 60 ปี ศัลยกรรมหญิงชั้น 4 ร.พ.นครพนม
พี่สาววัย 26 ปี กล่าวต่อว่า น.ส.ศศินาน้องสาววัย 18 ปี ได้กำลังใจขึ้นเยอะมาก หลังข่าวและสื่อโซเชียลมีเดียแพร่สะพัดออกไป ทำให้มียอดเงินบริจาคช่วยเหลือน้องหนูนา ผ่านหมายเลขบัญชีของตน เลขที่ 491-1-112984-5 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาแหลมฉบัง ล่าสุดในขณะนี้ พบว่ามียอดเงินหลั่งไหลเข้าจำนวน 62,700 บาทแล้ว ในช่วงแค่ข้ามวันเดียว ส่งผลให้น้องหนูนาที่ป่วยหนัก ได้กำลังใจจากสื่อโซเซียลมีเดียจากผู้ใจบุญทั่วประเทศ และเพื่อนๆในโรงเรียนส่งข้อความผ่านเพซบุ๊กและไลน์ ทยอยมาให้กำลังใจ จนตนและครอบครัวน้ำตาไหลซาบซึ้งในกำลังใจดังกล่าว ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณผู้ใจบุญคนไทยไม่ทิ้งกัน ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ ข่าวสดออนไลน์ รวมทั้งสื่ออื่นๆที่นำเสนอความเดือดร้อน เพราะครอบครัวเรายากจนจนไม่มีปัญหาจะรักษาน้องสาวได้
น.ส.ฐิติมา ยังระบุด้วยว่า เมื่อวานนี้มีพระรูปหนึ่งซึ่งทราบข่าว ท่านบอกว่าเป็นผู้สร้างรพ.สงฆ์ในจังหวัดแห่งหนึ่ง ได้ประสานมาทางแชทรูมสื่อออนไลน์เฟซบุ๊ก บอกกับตนว่ารู้จักกับแพทย์รักษาโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นแพทย์แผนไทย พระสงฆ์รูปนี้แชทรูปสอบถามอาการน้องสาวมาหลายครั้ง ล่าสุดขณะนำน.ส.ศศินาส่งรักษาที่ ร.พ.ปลาปาก ท่านยังโทรศัพท์มาสอบถามต่อเนื่อง พร้อมระบุว่าอาจจะมีแพทย์แผนไทยที่ใจบุญ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด เพื่อนำตัวมารักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเก่งๆ ก่อนจะวางสายไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ หันจรัส ตัวแทนสมาคมนักข่าว จ.นครพนม ก็นำเงินที่รวบรวมบริจาคจากกลุ่มสื่อมวลชน และผู้ใจบุญไปมอบสมทบช่วยเหลือให้ครอบครัวน้องหนูนา 3,700 บาท ด้วยเช่นกัน
ด้านนายสมใจ บิดาน้องหนูนา กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนเข้าไปกราบสรีระสังขารหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ในศาลาการเปรียญวัดพระธาตุมหาชัยที่อยู่ใกล้บ้านแค่ 50 เมตร ขอพรภาวนาให้หลวงปู่ช่วยดลบันดาลให้ผู้ใจบุญทั่วประเทศ ช่วยบริจาคเงินช่วยรักษาบุตรสาวให้ด้วย เพราะตนมีอาชีพแค่รับจ้างทั่วไป โดยไปใช้จอบเกลี่ยดินในวัดหลวงปู่ได้ค่าแรง 300 บาท แต่ก็ไม่เพียงพอจะรักษาน้องหนูนา กระทั่งข่าวแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว จนมีเงินบริจาคกว่า 60,000 บาท ดีใจจนน้ำตาคลอเบ้า ขอบคุณผู้มีพระคุณต่อครอบครัวทุกท่านมา ณ ที่นี้ บุตรสาวจะมีกำลังใจต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป