‘บรรยิน'โวยมีขบวนการดิสเครดิต ปัดสัมพันธ์ลึก‘อุรชา' ฝากขัง-ศาลให้ประกัน แฉจัดฉากฆ่าเสี่ยชูวงษ์
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ตำรวจ กก.ปพ.บก.ป.หรือคอมมานโดพร้อมอาวุธครบมือ 20 นาย คุมตัวพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ จ.401/2559 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2559 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาความผิดอื่น คดีฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน และประธานกลุ่มวิทยาตลาดทุน กิจการเพื่อสังคม (วตท.) รุ่นที่ 20 ไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนง ผลัดฟ้องฝากขังเป็นครั้งแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต หากได้รับการปล่อยชั่วคราว เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และการกระทำของผู้ต้องหาเกี่ยวกับการปลอมใบโอนหุ้นและลักเอาหุ้นของนายชูวงษ์ ผู้ตายไปและวางแผนจัดฉากอำพรางฆ่า เป็นการกระทำผิดอาศัยความใกล้ชิดและผู้ตายไว้วางใจในฐานะเพื่อน ทำผิดด้วยความแยบยลสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในคดี อีกทั้ง ผู้ต้องหายังมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้เสียหายและพยานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวพ.ต.ท.บรรยิน ออกจากห้องขัง บก.ป.เตรียมเดินทางไปศาล พ.ต.ท.บรรยินให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
โดยตั้งข้อสังเกตถึงการดำเนินคดีของตำรวจว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ครอบครัวนายชูวงษ์ออกมาแถลงข่าวครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของนายชูวงษ์ โดยนางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวนายชูวงษ์ อ้างว่าถูกคนยิงปืนขู่ ตนก็ไม่ทราบว่าใครยิง แล้วทำไมไม่ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าใครทำ ซึ่งนางวันเพ็ญพูดเหมือนว่าพวกตนเป็นคนทำ
พ.ต.ท.บรรยินกล่าวต่อว่า หลังวันที่ 26 มิถุนายน พนักงานสอบสวน บก.ป.ไปขออำนาจศาลออกหมายจับตน ทั้งที่ไม่เคยได้รับหมายเรียกเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญว่าทำไมการสอบสวนครบ 1 ปีแล้ว เจ้าหน้าที่เพิ่งมาได้พยานหลักฐานในเวลาไล่เลี่ยกับที่ญาตินายชูวงษ์ออกมาแถลงข่าว ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นกระบวนการที่ต้องการทำให้เหตุเช่นนี้เกิดขึ้น
"ผมว่ามันเป็นไปได้ว่านี่คือขบวนการดิสเครดิตผม และต้องการทำให้เห็นว่าผมใช้อิทธิพล ไปข่มขู่คุกคามอีกฝ่าย รวมทั้งพยายามหลบหนีคดี" พ.ต.ท.บรรยินกล่าว และว่า ก่อนหน้าจะถูกจับกุมตนเดินทางไปเขาใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน เพื่อไปตีกอล์ฟกับกลุ่มเพื่อน 10 คน แต่สื่อกลับไปออกข่าวเพียงว่าพบตนกับน.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์สาวคนสนิทและผู้ต้องหาในคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์ เพียงสองคน ซึ่งจริงๆแล้ว ขณะจับกุมก็ยังเห็นเพื่อนๆตนยืนอยู่ด้วย และไม่ได้เตรียมการเพื่อหลบหนี
สำหรับน.ส.อุรชาก็รู้จักกันนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งรู้จักและเหมือนลงเรือลำเดียวกัน หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์เช่นเดียวกัน และอีกอย่างตนอยากท้าให้ภรรยาและพี่สาวนายชูวงษ์ไปสาบานที่วัดพระแก้วว่าสิ่งที่ทั้งสองเคยพูดว่านายชูวงษ์ ไม่เคยคบหญิงสาวคนไหนเลย และไม่เฉพาะน.ส.อุรชา คนอื่นเขาก็รู้จักด้วย พี่สาวนายชูวงษ์รู้ดีในเรื่องนี้ ตนขอยืนยันว่ากับ น.ส.อุรชา นั้น แค่รู้จักกันแต่ไม่ได้มีความสันพันธ์ใดๆ ต่อกัน และอยากฝากถามสื่อด้วยว่า ตนได้รับความเป็นธรรมใดๆหรือไม่