การแพร่ระบาดของยาเสพติดมีการลักลอบมากขึ้น
วันนี้ (6 ส.ค.) พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ยาเสพติดในขณะนี้ ว่ามีความรุนแรงขึ้นมาก เนื่องจากมีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้ยาเสพติดหลายชนิดแพร่ระบาดเข้ามา เช่น ยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีน และกัญชา โดยใช้เส้นทางในการลำเลียงแตกต่างกันไป ซึ่งยาบ้ามีการลักลอบนำเข้ามากที่สุด ส่วนยาเสพติดกัญชาจะมีลักลอบเข้ามาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และขนลงสู่ทางใต้ของไทย เพื่อลำเลียงออกไปประเทศที่ 3 ต่อไป
ผบช.ปส. กล่าวต่อว่า
นอกจากนี้ ยาเสพติดประเภทเฮโรอีนและยาไอซ์ ก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยพบว่ามีการลำเลียงออกนอกประเทศทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และยอมรับว่าในปัจจุบันเครือข่ายยาเสพติดยังคงใช้ประเทศไทยเป็นจุดพักและทางผ่านยาเสพติดอยู่ เนื่องจากการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านประเทศไทยสามารถทำได้ง่าย
ผู้ลำเลียงส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า ลาว และกัมพูชา
ซึ่งจะใช้วิธีการลำเลียงแบบกองทัพมด ทำให้ยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็วและมีปริมาณมากขึ้น ผบช.ปส.ระบุ และว่า อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการเพิ่มมาตรการการทำงานอย่างเข้มข้น ในการสกัดกั้น กวาดล้าง และจับกุม ตลอดจนการขยายผลต่อ ทั้งในส่วนของผู้ลำเลียง ผู้ค้า และผู้เสพ ซึ่งจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวนั้น ถือว่าได้ผลเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุวัฒน์ ยังกล่าวถึงปัญหาเรื่องจำนวนสถานบำบัดด้านยาเสพติด
ที่มีจำนวนไม่เพียงพอ ที่จะรองรับจำนวนผู้กระทำผิด ว่าขณะนี้ทางกองทัพได้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้บ้างแล้ว เชื่อว่าหากมีสถานบำบัดพอเพียงและกระบวนการบำบัดนั้นได้ผล จะสามารถช่วยลดจำนวนผู้เสพลงเป็นจำนวนมาก