จากกรณีพบศพนายองอาจ ราชวงษ์ อายุ 84 ปี อดีตข้าราชการกรมสรรพสามิต นอนเสียชีวิตอยู่ในเพิงพักหลังกุฏิในวัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตรวจสอบพบสมุดบัญชีธนาคารออมสินมีเงินฝากอยู่ 1,340,000 บาท และโฉนดที่ดินใน จ.เชียง ใหม่ 2 ไร่ 2 แปลง สอบถามพระทราบว่า ผู้ตายมาอาศัยอยู่ที่วัดนานนับ 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเคยบริจาคเงินให้วัดสร้างสะพานกว่า 7-8 ล้านบาท อีกทั้งยังเก็บของเก่าขายและ นำเงินที่ได้ซื้อข้าวเข้าวัดทั้งหมด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดสาเหตุมาจากความชราภาพ ก่อนเข้าห้องน้ำแล้วเกิดเสียหลักลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้นจนเสียชีวิต ตรวจสอบพบว่า ผู้ตายเคยมีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันแล้วอยู่ที่ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว ส่วนทนายความที่ผู้ตายเคยทำพินัยกรรมเอาไว้ทราบว่าชื่อทนายอุเทน ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพด้วยอาการไม่ตอบสนองใดๆ ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ชายที่อ้างตัวว่าเป็นทนายความเพื่อนของทนายอุเทน โทรมาแจ้งกับ ร.ต.อ.สหัสพล พุ่มอิ่ม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ร้อยเวรเจ้าของคดีแล้วว่า ทราบเรื่องทั้งหมดแล้วจากพระอาจารย์สุพล พลสัมปันโน แล้วและจะรื้อค้นพินัยกรรมที่ผู้ตายได้ให้ทนายอุเทน ทำไว้ให้และจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน แต่ยังไม่มีการนัดวันและเวลาที่จะเข้าพบ
ร.ต.อ.สหัสพล เปิดเผยว่า สำหรับในเรื่องมรดกของผู้ตาย ถึงแม้ว่าผู้ตายจะมีคู่สมรสอยู่ก็ตาม แต่ทุกอย่างอยู่ที่พินัยกรรมที่ผู้ตายทำเอาไว้ว่า จะยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับใคร ในส่วนเรื่องที่ดินที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ผู้ตายเคยยกให้กับพระอาจารย์สุพล เมื่อหลายปีก่อนนั้น และมีการโอนให้เป็นชื่อคนสนิทของพระอาจารย์สุพล ที่เป็นเจ้าของร้านทองในย่านเยาวราชนั้น ก็ต้องมีการตรวจสอบในพินัยกรรมอีกว่ามีการระบุไว้ว่าอย่างไร แต่เท่าที่ทราบขณะนี้พบว่า ผู้ตายยังมีที่ดินอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีอีกแปลงหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ส่วนเรื่องศพของผู้ตายนั้นขณะนี้พระอาจารย์สุพล แสดงความจำนงที่จะเป็นผู้ดำเนินการเอง หากไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นญาติหรือทายาทของผู้ตาย ซึ่งขณะนี้ศพยังอยู่ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ จะดำเนินได้หลังจากงานศพเจ้าอาวาส วัดอโศการามแล้วเสร็จไปก่อน ซึ่งมีกำหนดพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 26 มิ.ย. นี้
ต่อมาในเวลา 14.00 น. นายชัยรัตน์ ประหยัดทรัพย์ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ หรือ ผู้ใหญ่เผือก เปิดเผยว่า สำหรับผู้หญิงคนดังกล่าวนั้น เป็นลูกบ้านของตน ทราบว่ามาอยู่ที่บ้านนี้ ซึ่งเป็นบ้านของป้าของเขานานแล้ว เขาอยู่กับป้า 2 คน ต่อมาภายหลังทราบว่าป้าเขาไปเยี่ยม ลูกๆ หลานๆ ที่กทม. ปล่อยให้หญิงดังกล่าวอยู่คนเดียวนานแล้ว โดยหญิงดังกล่าวนั้นทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ที่เกี่ยวกับอาหารทางการเกษตรส่งไปต่างประเทศ และไม่ได้มีสามี หรือลูกแต่อย่างใด และเมื่อเช้านี้หลังจากทราบข่าว ก็เดินทางไปสอบถาม ซึ่งเขาก็ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักยาจกเงินล้านแต่อย่างใด ซึ่งตนก็สงสัยในเรื่องนี้เหมือนกัน