ชี้ สาเหตุคนป่วยง่ายเพราะบุหรี่ ไม่ออกกำลังกายกินผักผลไม้น้อย

นพ.วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าววันนี้ (4 ส.ค.) ว่า
 
ขณะนี้ สธ.มีนโยบายยกระดับมาตรฐานความรู้ ความสามารถของอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ให้มีความเชี่ยวชาญในการส่งเสริมป้องกันโรค โดยเป็นการทำงานเชิงรุก สามารถถ่ายทอดความรู้การดูแลสุขภาพรายบุคคล ดูแลความปลอดภัยสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงสุขภาพสังคมและประเทศได้ เพื่อลดปัญหาและลดจำนวนการเจ็บป่วยของประชาชน คาดว่าโรคที่จะก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพรุนแรงทั้งไทย และทั่วโลกใน 30 ปีจากนี้ไป ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง เนื่องจากพฤติกรรมการกินอยู่ไม่ถูกต้อง ทำให้อ้วนและก่อให้เกิดปัญหาตามมา  รมว.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า

มีรายงานสุขภาพจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ประมาณร้อยละ 58 ของโรคเบาหวานทั่วโลก ร้อยละ 21 ของโรคหัวใจขาดเลือด และร้อยละ 8-42 ของโรคมะเร็งบางชนิด มีสาเหตุมาจากความอ้วน และพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคดังกล่าวได้เร็วขึ้น ได้แก่ 1.การสูบบุหรี่ 2. กินผักผลไม้น้อย และ 3. การไม่ออกกำลังกาย ทำให้พลังงานที่ได้จากอาหารเกิดการสะสมในร่างกายในรูปของไขมัน โดยเฉพาะไขมันที่สะสมในช่องท้อง หรือที่เรียกว่าอ้วนลงพุง เป็นอันตรายมาก

นพ.วัลลภ กล่าวอีกว่า

หากพิจารณามาตรฐานเส้นรอบเอว ผู้ชายไม่ควรเกิน 90 เซนติเมตร ผู้หญิงไม่ควรเกิน 80 เซนติเมตร โดยผลสำรวจล่าสุด พบขณะนี้มีคนไทยเอวเกินมาตรฐานประมาณ 9 ล้านคน และกลายเป็นโรคอ้วนลงพุงแล้ว กว่า 6 ล้านคน รอบเอวที่เพิ่มขึ้นทุก 5 เซนติเมตร จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานมากกว่าคนไม่อ้วนถึง 3-5 เท่า และหากอ้วนลงพุงและเป็นโรคเบาหวานด้วย จะเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือด 5 เท่า เสี่ยงเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับ 3 เท่า  รมว.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า

นอกจากนี้ จากผลสำรวจการกินผักผลไม้ของคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ล่าสุดในปี 2547 พบว่าร้อยละ 78 หรือประมาณ 35 ล้านคน กินโดยเฉลี่ยเพียง 275 กรัม โดยปริมาณน้อยมาก ยังไม่เพียงพอต่อการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันไม่ให้เกิดโรคได้ เพราะตามมาตรฐานสากลจะต้องกินให้ได้วันละ 400 กรัม เนื่องจากผักผลไม้มีประโยชน์ทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน มีสารต้านโรคมะเร็งโดยเฉพาะผลไม้ผักที่มีสีเหลือง เช่น ฟักทอง แครอท มะม่วง สำหรับการออกกำลังกายของประชาชนไทย ขณะนี้ ดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย