คุ้ยปมจีนปลอมบัตร ตั้งบริษัทฮุบทัวร์ภูเก็ต

คุ้ยปมจีนปลอมบัตร ตั้งบริษัทฮุบทัวร์ภูเก็ต


หลัง กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ปัญหาการประกอบธุรกิจอันมีลักษณะใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง หรือนอมินี โดยเฉพาะบริษัททัวร์ ซึ่งหลายปีที่ผ่านมามีกระแสข่าวกลุ่มทุนจีนเข้ามาดำเนินการครอบคลุมไปแทบทุกภาคส่วนของการท่องเที่ยวภูเก็ต

ล่าสุด 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ก็สามารถทลายบริษัทนอมินีรายใหญ่ ซึ่งมีผลประกอบการปีละร่วม 200 ล้านบาท ได้สำเร็จ

พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวน สนธิกำลังกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ สรรพากรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด เข้าตรวจสอบ บริษัท ทรานลี่ แทรเวล ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบเอกสารการประกอบการ และตรวจสอบบริษัทในเครืออีก 17 บริษัท

โดยข้อมูลที่ตำรวจนำมาขอหมายค้นและหมายจับจากศาลคือ เจ้าของและผู้มีอำนาจของบริษัท 2 คน คือ วีระชัย คำไผ่ประพันธ์กุล และ กฤชกร รุ่งมงคลนาม เป็นคนจีนที่ปลอมบัตรประจำตัวประชาชนไทย และจดทะเบียนตั้งบริษัท

น่าตะลึง บริษัทในเครือข่ายนี้ ก่อตั้งมาตั้งแต่ช่วงปี 2530 หรือร่วม 30 ปีมาแล้ว ปัจจุบันมีบริษัทในเครือถึง 17 บริษัท ครอบคลุมกิจการท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต มีรถบัสรับนักท่องเที่ยวร่วม 100 คัน เรือท่องเที่ยวอีก 30 ลำ ผลประกอบการร่วมปีละ 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม วีระชัยหลบหนีการจับกุมในข้อหาแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงาน กรณีใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอมจดทะเบียนบริษัท เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวกฤชกรได้เพียงคนเดียว

อย่างไรก็ตาม กฤชกรเป็นที่รู้จักในสังคมอย่างกว้างขวาง ในนาม "โกกวง" มีตำแหน่งทางสังคม ในชมรม สมาคมต่างๆ หลายแห่ง ยิ่งกว่านั้นยังเป็นตัวแทนกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่เข้าร่วมประชุมแก้ปัญหานอมินีกับรัฐมนตรีกอบกาญจน์ทุกครั้ง

"วีระชัยและกฤชกร ทั้งสองคนเป็นคนจีน ที่เข้ามาใช้กลวิธีทำบัตรประจำตัวประชาชนปลอม จาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตำรวจสืบสวนหาข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน เช็กจากรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท ต่างๆ มีชื่อคนนี้ มีหุ้นเกิน 51% เป็นคนไทยจริงหรือไม่ ตรวจสอบข้อมูลไป พบว่าได้สวมบุคคลในครอบครัวหนึ่งที่ อ.แม่สาย หลังจากได้บัตรประจำตัวประชาชนก็ย้ายมาอยู่ที่พังงา เปลี่ยนชื่อเป็นกฤชกร แล้วเข้ามาภูเก็ต นำบัตรประจำตัวประชาชนทำธุรกรรมต่อเจ้าพนักงาน" พ.ต.อ.สมาน เปิดเผยถึงเส้นทางการได้บัตรประจำตัวประชาชนปลอม

คุ้ยปมจีนปลอมบัตร ตั้งบริษัทฮุบทัวร์ภูเก็ต


การทำธุรกิจของทั้งสอง ข้อมูลการสืบสวนของตำรวจพบว่าทำเป็นระบบครบวงจร

"ตั้งแต่ลงจากสนามบิน นักท่องเที่ยวจีนเป็นของเขา มีรถทัวร์ของเขาไปรอรับจากสนามบิน เข้าพักโรงแรมของเขา กินข้าวที่ภัตตาคารของเขา ลงเรือเที่ยวเกาะก็เรือของเขา สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ล้วนในเครือข่ายของเขา เงินตราแทบไม่ลงในประเทศไทยเลย รายได้ของบริษัทเขา 160 ล้านบาท/ปี ตกแต่งบัญชี มีรายจ่ายกว่า 150 ล้านบาท เหลือกำไรประมาณ 1-2 ล้านบาท เสียภาษีให้รัฐ 2 แสนบาท"


ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำลังจะเข้ามาตรวจสอบ โดยบูรณาการร่วมกันกับสรรพากรและกระทรวงพาณิชย์ เพิกถอนใบอนุญาตต่างๆ คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง มั่นใจว่ายังมีอยู่มากกว่านี้

ขณะที่ พ.ต.อ.สมาน หัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวน ก็เปิดเผยว่า ยังมีธุรกิจในกลุ่มอื่นๆ ที่มีลักษณะเป็นนอมินี อีก อาทิ อสังหาริมทรัพย์และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้มี 50 บริษัท เป็นเป้าหมายที่จะดำเนินการต่อไป

น่าจับตาการทำงานของตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการแก้ปัญหานอมินีต่อไป เพราะนั่นหมายถึงการนำเงินรายได้ของประเทศที่รั่วไหลออกไปกลับคืนมา ซึ่งมูลค่านั้นคาดว่ามากพอกับรายได้จากการท่องเที่ยวในขณะนี้

ที่มาจาก>>posttoday.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์