เตรียมปิดฉาก “BRT” สายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ หลังขาดทุนยับเยินพันล้าน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เตรียมปิดฉาก “BRT” สายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ หลังขาดทุนยับเยินพันล้าน
เป็นที่แน่นอนภายในปีนี้จะปิดฉากโปรเจ็กต์ล้อยาง “BRT-รถประจำทางด่วนพิเศษ” สายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ ระยะทาง 15.9 กม. มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท โปรเจ็กต์ หาเสียงของ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” อดีตผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
6 ปีขาดทุนยับพันล้าน
หลังเปิดให้บริการมากว่า 6 ปี นับจาก เดือน พ.ค. 2553 แต่ประสบปัญหาขาดทุนมาตลอด เมื่อจำนวนผู้โดยสารไม่เป็นไป ตามเป้า 3 หมื่นคน/วัน แม้จะลดค่าโดยสารจาก 10 บาทเหลือ 5 บาทแล้วก็ตาม
จากข้อมูลของ กทม.ที่ปรากฏ นับจากเปิดบริการมาถึงปัจจุบัน มีผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 2.3 หมื่นเที่ยวคน/วัน ขาดทุนร่วม 1 พันล้านบาท จากการที่ “กทม.” ต้องควักเงิน งบประมาณอุดหนุนโครงการปีละ 200 กว่าล้านบาท เพื่อจ่ายค่าจ้างให้ “บีทีเอสซี- บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ” ผู้ติดตั้งระบบ จัดหารถ 25 คัน พร้อมเดินรถให้เป็นระยะเวลา 7 ปี จะสิ้นสุด เม.ย. 2560
ย้อนเวลาสำหรับโครงการนี้ ริเริ่มเมื่อ ปี 2548 สมัย “ผู้ว่าฯ อภิรักษ์” มี “สามารถ ราชพลสิทธิ์” รองผู้ว่าฯ กทม.ช่วยผลักดัน หลัง “ครม.-คณะรัฐมนตรี” อนุมัติเริ่มสร้างปี 2550 กว่าจะเปิดบริการได้ในปี 2553 ในระหว่างทางก็ขลุกขลักพอสมควร ทั้งความไม่โปร่งใสในการซื้อรถราคาคันละ 7.5 ล้านบาท ที่ว่ากันว่าแพงหูฉี่ แต่ก็ทู่ซี้จนโครงการเปิดใช้ในที่สุด
แต่ถึงจะฝ่าด่าน “ดีเอสไอ-กรมสอบสวนคดีพิเศษ” ได้สำเร็จ ความชุลมุนยังไม่สิ้นสุด เมื่อเส้นทางที่ใช้คิกออฟโครงการ จาก “ช่องนนทรี-ราชพฤกษ์” ถึงจะกันเลนพิเศษไว้เฉพาะแล้ว แต่ยังมีรถอื่นวิ่งเข้าแทรกตลอดเวลา ที่สำคัญไม่สามารถหลุดพ้นวังวนรถติดบนถนนเส้นนี้ได้
จึงทำให้โครงการไม่เปรี้ยง ! ไม่สามารถตอบสนองความต้องการคนกรุงได้ตรงจุด
สุขุมพันธุ์ชี้ผู้โดยสารหลุดเป้า
“ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สาเหตุที่ยกเลิกรถบีอาร์ที เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารน้อย ไม่เป็นไปตามประมาณการที่วางไว้ ทำให้โครงการขาดทุน แนวโน้มจะนำมาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาเฟส 3 พระราม 3-ท่าพระ ที่จะสร้าง ในอนาคต แต่ระหว่างนี้จะนำระบบอื่นมาวิ่งทดแทนไปก่อน อยู่ระหว่างศึกษา
“ต้องเปลี่ยนเป็นระบบราง ถึงจะดึงคนใช้บริการได้เพิ่มขึ้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3-4 พันคน/ชั่วโมง เพราะจุคน ได้มากกว่าและไม่เสียเลนถนน”
ที่มา เรื่องเด่นน่ายิ้ม
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!