วันที่ 18 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการพบเด็กชาย วัย 10 ขวบ พิการหูหนวก และมีพฤติกรรมแปลก ชอบคลานและทำท่าทางลักษณะคล้ายกับสุนัข ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยเณรแก้วทางหลวงสุพรรณบุรีที่บริเวณ ม.5 ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งได้ไปพบเด็กชายกำลังนั่งเล่นกับสุนัขอยู่ที่ร้านค้า พร้อมมีพฤติกรรมและท่าทางแปลกๆ
โดยนายชัยวัฒน์ กอแก้ว อายุ 54 ปี เจ้าของร้านค้า ซึ่งคุ้นเคยกับน้องเอเล่าให้ฟังว่า เห็นน้องเอมีลักษณะแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ โดยชอบคลานทำท่าทางคล้ายสุนัข และชอบเล่นกับสุนัขเป็นประจำ ไม่ว่าจะสุนัขที่บ้านของตนหรือสุนัขทั่วไปในหมู่บ้าน ซึ่งก็เรื่องที่ชินตาของคนในละแวกนี้ไปแล้ว โดยปกติน้องเอก็จะมาซื้อขนมกับน้ำอัดลมที่ร้านเป็นประจำ โดยยายจะให้เงินมา ตนก็จะใช้วิธีการสื่อสารกันทางภาษามือ ซึ่งน้องเอก็เป็นเด็กดีไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าวอะไร ที่ผ่านมาตนก็ช่วยเหลือและดูแลมาตลอด รู้สึกสงสารอยากให้มีคนมาช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านของน้องเอ โดยน้องเออาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 216 ม.5 ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พบบ้านเป็นสภาพไม้เก่า ถูกมุงด้วยหลังคาสังกะสี และมีข้าวของเครื่องใช้กระจัดกระจายอยู่ในสภาพเก่า
นางสนิท พานทอง อายุ 54 ปี ยายของน้องเอเล่าว่า น้องเอเป็น เด็กพิการทางหู คือหูหนวกมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งแม่ของน้องเอนั้นได้เสียชีวิตไปแล้วในวัย 23 ปี แม่ของเอก็พิการทางสมอง และเป็นโรคไต ส่วนพ่อก็แยกทางกันไปนานแล้ว เอจึงเป็นเด็กกำพร้า ได้อาศัยอยู่กะตายาย โดยเอนั้นไม่ได้เรียนหนังสือ ที่ผ่านมาก็เคยพาไปฝากเรียนครั้งหนึ่ง แต่เคยไปเรียนได้แค่ครึ่งวันก็ถูกส่งตัวกลับ ตนก็พยายามพาไปสมัครอีกหลายโรงเรียนก็ได้ถูกแนะนำให้ไปเรียนโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ แต่เนื่องด้วย ตนไม่มีความรู้และไม่มีเงิน จึงไม่กล้าพาไปสมัครเรียน จึงทำให้ทุกวันนี้เอไม่ได้เรียนหนังสือ ได้แต่ใช้ชีวิตอยู่กับตายายเท่านั้น ซึ่งตาและยายก็มีอาชีพเก็บของเก่าขายประทังชีวิต และเอก็จะตามไปด้วยทุกครั้ง และชอบไปเล่นกับเด็กๆ ตามโรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง โดยเอมีพฤติกรรมแปลกๆแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ชอบคลานไปมา ไม่ค่อยชอบเดิน ทั้งที่ก็เดินได้เหมือนเด็กทั่วไป และยิ่งถ้าอยู่กับเด็กๆจำนวนมาก ก็จะคลานไปมาตลอดเวลา โดยเฉพาะที่เวลาอยู่ใกล้กับสุนัขหรืออยู่กับคนจำนวนมาก ซึ่งตนก็ไม่เคยพาไปหาหมอ เคยพาไปแต่เรื่องหู อย่างเดียว ตั้งแต่ตอนเด็กๆ เคยพาไปรักษาทั้งที่รพ.สุพรรณและรพ.ที่กทม.นานแล้ว ปัจจุบันก็ได้มีบัตรคนพิการ ได้รับเบี้ยคนพิการเลี้ยงชีพ ส่วนตนนั้นก็อยากให้เอได้เรียนหนังสือ เพื่อจะได้ปรับพฤติกรรมท่าทางว่าเกิดจากอะไรและอยากให้เอได้รักษาอย่างถูกวิธี เพราะตนก็ไม่มีเงินรักษา ก็ทำได้แต่เลี้ยงยอดมีข้าวกินไปวันๆ เพราะรายได้หลัก ตอนนี้ ตากับยายก็ได้มีอาชีพเก็บของเก่าขาย รับจ้างทั่วไป พอประทังชีวิตเลี้ยงหลานไปตามมีตามเกิด ตนอยากให้เอได้เรียนหนังสือ ได้มีชีวิตที่ดีกว่านี้ อยากให้เค้าหายจากพฤติกรรมที่ชอบคลานแปลกๆแบบนี้ เพราะไม่อยากให้ใครมองหลานว่าเป็นตัวประหลาด อยากให้เค้าได้รับการรักษาและมีชีวิตเหมือนเด็กปกติทั่วไป เผื่อถ้าวันนึงตาและยายไม่อยู่ อย่างน้อย เค้าก็จะได้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ต่อไปได้ โดยไม่เป็นภาระใคร
นอกเหนือจากความพิการทางหู และมีพฤติกรรมสุดแปลกของน้องเอแล้ว ยังสังเกตเห็นว่า บริเวณผิวหนังของน้องเอมีตุ่มขึ้นบนผิวหนังเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเกิดจากการที่น้องเอต้องใช้ชีวิตอยู่กับสุนัขบ่อยครั้ง และคลานไปตามพื้น และยังอยู่กับขยะบ่อยครั้ง อาจเกิดจากความสกปรกและเกิดเชื้อรา จึงวอนขอให้ผู้ใจบุญได้ให้การช่วยเหลือน้องเอและครอบครัว ต่อไป