เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 1/2559 มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอร่วมประชุม
โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ แถลงภายหลังการประชุมถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจรกับ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกายว่า ที่ประชุม กคพ. ไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้ และดีเอสไอไม่ได้รายงานให้ที่ประชุมได้รับทราบ อย่างไรก็ตามการสอบสวนคืบหน้าไปมาก เป็นไปตามแผนการทำงานและยืนยันจะสรุปสำนวนเสร็จในเร็วๆ นี้ เพื่อส่งอัยการสั่งฟ้อง แต่จะส่งสำนวนคดีภายในวันที่ 14 มิถุนายน หรือหลังวันที่ 14 มิถุนายนนั้น ยังไม่สามารถบอกได้
ส่วนประเด็นที่วัดพระธรรมกายขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวนั้น พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ดีเอสไอยังไม่ได้รับเรื่อง ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนปฎิบัติหน้าที่ทำงานตามกรอบกฎหมาย เพราะรู้ว่าเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการยื่นเรื่องมาจริงก็ต้องพิจารณาเหตุผล และถ้าพนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามกฏหมายอย่างที่ผ่านมาก็ไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่เรียกร้อง
"ดีเอสไอต้องพิจารณาดู ถ้าเห็นเรื่องที่ร้องให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนแล้ว ไม่มีเหตุผลและความจำเป็น ก็ขอยืนยันว่าไม่เปลี่ยน เพราะวันข้างหน้าถ้ามีคดีอื่นมาขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนหมด เราจะดำเนินการอย่างไร ยกเว้นว่าผู้ร้องมีเหตุผลสมควร"พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว และว่า สำหรับข้อกังวลกรณีพระธัมมชโยจะได้ข้อยุติดำเนินการให้เป็นไปตามหมายจับเมื่อใดนั้น ยืนยันว่า การดำเนินการเป็นไปตามที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมให้นโยบาย แต่ขึ้นอยู่กับทางสงฆ์ดำเนินการเจรจาช่วยในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการทำงานเท่านั้น ถ้าสรุปสำรวนเสร็จแล้วพนักงานสอบสวนสามารถลงความเห็นสั่งฟ้องได้ โดยไม่ต้องรอให้ได้ตัวผู้ต้องหา
ส่วนการเอาผิดกับแพทย์ รพ.ค่ายภาณุรังษี จ.ราชบุรี ที่ออกใบรับรองแพทย์เป็นเท็จนั้น ขณะนี้รพ.กำลังสอบข้อเท็จจริง เช่นเดียวกับแพทยสภาก็กำลังตรวจสอบความผิด ซึ่งดีเอสไอจะรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีเร็วๆ นี้
ด้าน นายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในฐานะเป็นตัวแทนผู้ประสานงานเจรจา 3 ฝ่ายเพื่อให้ พระธัมมชโย ยอมมอบตัว เปิดเผยว่า เรื่องนี้จะจบวันที่ 14 มิถุนายน จะได้ข้อสรุปทุกอย่าง คาดว่าจะจบแบบแฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย เพราะตนขอให้วัดธรรมกาย ซึ่งมีทนายของวัดหลายกลุ่มไปสรุปเรื่องมา โดยตนเป็นคนกลางเจรจา จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากันอีก เพราะเงื่อนไขทั้งหมดทุกฝ่ายรับรู้แล้ว
ส่วนกรณีวัดพระธรรมกายขอให้ดีเอสไอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนนั้น เรื่องนี้ต้องได้รับการยินยอมจากทั้งสองฝ่าย เมื่อดีเอสไอขอให้เจ้าอาวาสวัดเขียนเขตและเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเจรจาให้แล้ว ขณะนี้เป็นบรรยากาศที่ดี ถ้าเรื่องไม่จบวันที่ 14 มิถุนายน จะเกิดปัญหาแล้วกลับไปเป็นเหมือนปี 2553 อีก ที่ผ่านมาดีเอสไอก็ลดราวาศอกให้วัดพระธรรมกายทุกอย่างแล้ว ต้องต่อสู้กันภายใต้กฎหมาย ไม่เช่นนั้นดีเอสไอจะทำงานลำบาก
"วันที่ 14 มิถุนายนจะจบลงด้วยการเจรจาให้พระธัมมชโยมามอบตัวกับดีเอสไอ เพราะถ้าพระธัมมชโยไม่มามอบตัว เรื่องนี้จะไม่จบ ผมยืนยันว่าพระธัมมชโยต้องเข้ามอบตัวกับดีเอสไอแน่นอน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะให้ไปมอบตัวที่ไหน เพราะมติที่ประชุมไม่อนุญาตให้เปิดเผยขณะนี้ รอดูวันที่ 14 มิถุนายน"นายสมศักดิ์ กล่าว
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายองอาจ ธรรมนิทาน โฆษกวัดพระธรรมกาย นำคณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกายเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี เพื่อกราบขอขมาพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กรณีพระพะยอมให้สัมภาษณ์สื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ฉบับหนึ่งพาดพิงถึงพระธัมมชโยสร้างความขุ่นเคืองให้ลูกศิษย์ นำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดี ต่อมาพระพยอมขอโทษวัดพระธรรมกาย ทำให้ลูกศิษย์เดินทางมากราบขอขมาพระพยอม ที่ได้แจ้งความดำเนินคดีไป
ทั้งนี้ พระพยอม ยอมรับคำขอโทษจากลูกศิษย์พระธัมมชโย พร้อมกล่าวว่า ไม่ติดใจที่ถูกศิษย์วัดพระธรรมกายแจ้งความ และยังกล่าวขอโทษศิษย์วัดพระธรรมกายด้วย อีกทั้ง ยืนยันว่าการที่กล่าวพาดพิงถึง พระธัมมชโยและวัดฯ เป็นความหวังดีต่อพระพุทธศาสนา และไม่อยากเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้น รวมทั้งไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายวัดพระธรรมกาย นอกจากนี้ พระพะยอมยังกล่าวเตือนไปทางวัดพระธรรมกายว่า
ให้บริหารจัดการเงินบุญของทางวัดให้ดี อย่าให้มีคนไม่ดีมาบริหารได้ รวมถึงยังฝากเตือนศิษยานุศิษย์เกี่ยวกับป้าย "เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของพระธัมมชโย" ให้เปลี่ยนเป็นให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพระธัมมชโยก่อนค่อยตัดสินจะดีกว่าหรือไม่ นอกจากนี้ ยังฝากเรื่องการหลงบุญ หลงคิดว่าการทำบุญ บริจาคมากๆถึงจะได้ไปสวรรค์ว่า ที่จริงทำอะไรที่เป็นเรื่องดีก็ได้บุญ อย่างการขอขมาวันนี้ ทุกคนลดอัตตา ขอขมาลาโทษและต่างอโหสิกรรมกันก็ได้บุญ
ขณะที่ นายองอาจ กล่าวว่า ศิษย์วัดพระธรรมกายไม่ได้มีเจตนาดำเนินคดีกับพระพยอม โดยการนำหลักฐานไปแจ้งความนั้น เป็นเพียงการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น เรื่องที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะสื่อรายงานคลาดเคลื่อน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด หลังทราบว่าพระพยอมขอโทษวัดพระธรรมกายแล้ว ลูกศิษย์วัดจึงมากราบขอขมาพระพยอม
ทนายวัดปากน้ำยันธัมมชโย มอบตัว 14 มิย. ยังอุบเงียบสถานที่นัดหมาย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ทนายวัดปากน้ำยันธัมมชโย มอบตัว 14 มิย. ยังอุบเงียบสถานที่นัดหมาย