ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่า และครอบครองสัตว์คุ้มครองในวัดหลวงตามหาบัว จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมให้กรมอุทยานฯ ถอดใบอนุญาตการขอตั้งสวนสัตว์ของวัดป่าหลวงตามหาบัวด้วย
เสือโคร่ง 147 ที่ถูกเลี้ยงอยู่ภายในวัดหลวงตามหาบัว อำเถอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ถูกขนย้ายออกไปเลี้ยง ยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จังหวัดราชบุรี เจ้าหน้าที่กรมอุทยานใช้เวลา 6 วัน ตั้งแต่ วันที่ 30 พ.ค. - 4 มิ.ย. วิธีการขนย้ายนั้น มีทีมคณะสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยิงด้วยกระสุนใส่ยาสลบ แล้วนำใส่กรงขนาดใหญ่ขนย้ายมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดทางอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ระหว่างการขนย้ายได้พบ ซากลูกเสือ 40 ตัว ลูกเสือโคร่งแรกเกิดที่ถูกดองในขวดโหล 30 ขวด ซากหมีควาย 1 ซาก ซากเสือดาว 2 ซาก ทั้ง 2 ชนิดถูกสตัฟฟ์ทั้งตัว และยังมีซากเสือไฟ ซากกวางป่า และโครงกระดูก 2 โครง รวมถึงเครื่องรางของขลังที่ทำจากอวัยวะเสือนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำของกลางทั้งหมดเก็บไว้ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้จะเร่งทำบันทึกและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน หากผลการสอบสวนพาดพิงไปถึงใครจะต้องดำเนินคดีกับบุคคลผู้นั้นอย่างเด็ดขาดเช่นกัน โดยจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พร้อมสั่งยกเลิกหนังสืออนุญาตวัดจัดตั้งสวนสัตว์ด้วย
ขณะที่พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับผู้ทำคดีนี้เร่งติดตามอย่างใกล้ชิด และให้ตรวจสอบว่าซากสัตว์ที่พบทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้าสัตว์หรือไม่ และเตรียมนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ใด และยืนยันว่ามีแนวทางการสืบสวนและมีข้อมูลเส้นทางของกลุ่มขบวนการลักลอบค้าซากสัตว์ อย่างตรงไปตรงมา
ด้าน นางเตือนใจ นุชดำรงค์ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยอมรับว่า การขนย้ายเสือครั้งนี้เป็นการขนย้ายเสือที่มีเป็นจำนวนมาก และเป็นครั้งแรกของโลก เตรียมประสานไปยังกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส ให้บันทึกเป็นสถิติของโลก ส่วนค่าเลี้ยงดูเสือคาดว่า ใช้งบประมาณปีละ 10 ล้านบาท
ขอบคุณ voicetv