ดีเอสไอยันเงื่อนไขเดิม พร้อมให้ประกัน หาก‘ธัมมชโย’มอบตัว

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการดำเนินคดี พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ไม่ยอมเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาคดีสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กำหนดไว้โดยลูกศิษย์ระบุว่า ขณะนี้พระธัมมชโย ยังคงรับการรักษาอาการอาพาธอยู่ภายในวัดพระธรรมกายว่า ตนได้มอบให้ พศ. ทำงานร่วมกับคณะสงฆ์วัดพระธรรมกาย และดีเอสไอ เพราะต้องการให้ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด บนพื้นฐานของกฎหมายและข้อเท็จจริง และไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง เข้าใจผิดเพิ่มเติม ยึดหลักกฎหมาย ไม่มีอคติต่อฝ่ายใด

คาดสัปดาห์หน้าชัดเจน

"เรื่องนี้ยิ่งปล่อยให้เนิ่นนานออกไปก็จะส่งผลกระทบต่อทุกฝ่าย เสียงวิพากษ์วิจารณ์ การแสวงประโยชน์ จะไม่สิ้นสุด ผมไม่อยากเห็นผลกระทบขยายตัวไปมากกว่านี้ และที่ผ่านมาได้หารือกับ พ.ศ.อยู่เป็นประจำ แนะนำอะไรได้ก็แนะนำไปตลอด ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ละเอียดรอบคอบ ดูทุกปัจจัยเกี่ยวข้อง ซึ่งทราบว่าแนวโน้มการแก้ไขปัญหาดีขึ้นพอสมควร และหวังว่าสัปดาห์จะมีความชัดเจน" รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ชี้ปัญหาอยู่ที่ความไม่ไว้ใจกัน

นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า คณะสงฆ์โดย พระเทพรัตนสุธี (สมศักดิ์ โชตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้เมตตาเข้ามาช่วยพูดคุยและลดความไม่เชื่อใจระหว่างกัน ส่วนพระมหาเถระก็ให้คำปรึกษา ดังนั้นจะเห็นว่าทุกฝ่ายกำลังทำงานกันอยู่ มีการประชุมหารือกัน ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายไปทำงานกันต่อ ประเด็นสำคัญที่เห็นในขณะนี้อยู่ที่ความไม่ไว้วางใจต่อกัน รัฐบาลยืนยันได้ว่ายึดหลักความถูกต้อง ข้อกฎหมาย ไม่มีอคติ ทุกฝ่ายก็ควรลดท่าทีที่ไม่วางใจกัน ทำให้ทุกอย่างอยู่ในสภาพปกติ ลดมาตรการ ลดกิจกรรม ที่อาจทำให้เกิดคำถาม ถ้าทำได้ หนทางแก้ไขปัญหาที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมก็น่าจะเกิดขึ้นได้ อาจถูกใจหรือไม่ถูกใจของแต่ละฝ่าย แต่ทุกฝ่ายก็ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สิ่งนี้สำคัญต่อสังคมเรา

หวังเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส

นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นวิกฤติเพียงด้านเดียว แต่เห็นว่าเป็นโอกาส เพราะเกิดบทเรียนสำคัญแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในเรื่องการบริหารจัดการผลประโยชน์ของวัด ทำอย่างไรจะให้ถูกข้อกฎหมาย เป็นไปตามหลักพระธรรมวินัย และทำให้ญาติโยมเกิดความเลื่อมใสศรัทธา

ทุกอย่างเดินหน้าหากพร้อมใจกัน

"ถ้าเราเห็นตรงกันว่าหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ทางลบ ถ้าเห็นว่าไม่ควรให้เกิดขึ้นต่อไป ก็ต้องสร้างระบบใหม่ที่ถูกต้องเหมาะสมขึ้นมา พ.ศ.ต้องขับเคลื่อนต่อไป การปฏิรูปทุกเรื่องจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดผลสัมฤทธิ์ได้เร็ว จะต้องเกิดจากภายในองค์กรนั้นเป็นหลัก สมาชิกขององค์กรพร้อมใจกัน ทุกอย่างก็จะเดินหน้าไปได้ แรงกดดันจากภายนอกไม่อาจทำให้การปฏิรูปสัมฤทธิ์ผลได้อย่างสมบูรณ์ ก็หวังว่าเมื่อมรสุมผ่านไป สิ่งดีๆจะถูกนำกลับมาให้สังคมได้เห็นมากขึ้นๆ

ยันใช้หมอรพ.พระมงกุฏฯเท่านั้น

มีรายงานเกี่ยวกับข้อสรุปการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างดีเอสไอ และตัวแทนจาก พศ. ที่เข้าหารือกับพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ที่วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า พระธัมมชโย พร้อมที่จะมอบตัว แต่มีเงื่อนไขว่าต้องได้รับการประกันตัวทันที โดยเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี จะต้องเข้าร่วมในการแจ้งข้อกล่าวหาด้วย นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขว่า แพทย์ที่จะเข้าตรวจอาการอาพาธนั้น ให้ใช้แพทย์จาก รพ.พระมงกุฎเกล้า เท่านั้น ทางวัดพระธรรมกายคัดค้านการใช้แพทย์จาก รพ.ตำรวจ ตามที่ดีเอสไอเสนอ เนื่องจากไม่มั่นใจในความเป็นกลาง

6มิ.ย.ได้ข้อสรุปเงื่อนไขมอบตัว

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกระแสข่าวพระธัมมชโยพร้อมที่จะมอบตัว แต่มีเงื่อนไขบางประการ ว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเงื่อนไขที่พูดคุยกันในการหารือ 3 ฝ่าย ที่ผ่านมาได้ เพราะขณะนี้ยังไม่ถือว่าได้ข้อสรุปเป็นที่ยุติ ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนจะต้องนำรายละเอียดที่ได้พูดคุย เข้าหารือกันที่สำนักงานดีเอสไอ ในช่วงเช้าวันที่ 6 มิถุนายน ว่าเห็นด้วยหรือขัดแย้งในเงื่อนไขใดบ้าง หลังจากนั้นก็จะนำมติจากที่ประชุมไปเจรจาเพื่อหาข้อยุติต่อไปในช่วงบ่ายวันเดียวกันที่วัดเขียนเขต

ย้ำให้ประกันหลังแจ้งข้อกล่าวหา

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า สำหรับการประกันตัวนั้น ดีเอสไอยังยืนยันเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงว่าหากพระธัมมชโย ยอมรับให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ทางเราก็ยินดีให้ประกันตัว เพราะไม่ว่าจะเป็นกรณีที่แพทย์ไปตรวจพระธัมมชโย แล้วแจ้งผลว่าท่านป่วยไม่สามารถเคลื่อนย้ายร่างกายได้ ทางดีเอสไอก็จะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาพระธัมมชโย ภายในวัด แต่ถ้าหากผลตรวจออกมาว่าท่านป่วยแต่เคลื่อนย้ายได้ ทางพระธัมมชโย ก็จะต้องเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอ ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้ทางดีเอสไอให้ประกันตัวได้ทั้งสิ้น

สรุปสำนวนส่งฟ้องสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ระบุว่า การสรุปสำนวนคดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งคาดว่าคณะพนักงานสอบสวนน่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องได้ภายในสัปดาห์หน้า แม้ว่าพระธัมมชโย จะให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ การเจรจาใดๆ กับทางวัดพระธรรมกาย ก็ไม่ทราบว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะได้ข้อยุติ โดยล่าสุดที่คุยกันเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน นั้น ไม่ทราบว่าพระและศิษย์แต่ละฝ่ายของวัดพระธรรมกาย จะมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมดทุกคนหรือไม่ ทั้งนี้ เกรงว่าหากเป็นเช่นนี้จะทำให้มีความล่าช้าและในที่สุดพระธัมมชโย อาจจะหลบหนีคดีออกนอกประเทศไปก่อนแล้วก็เป็นไปได้

โฆษกวัดปัดข่าวธัมมชโยมอบตัว

ด้าน นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย เปิดเผยกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พระธัมมชโย จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เชื่อว่ายังไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะอยากให้มีการพูดคุยให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก่อน ประกอบกับ อาการอาพาธของ พระธัมมชโย ก็ยังคงน่าเป็นห่วง ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ซึ่งแพทย์ไม่แนะนำให้ออกไปพบเจ้าหน้าที่ในช่วงนี้ ส่วนในการประชุมหารือ 3 ฝ่าย ตนยังไม่ทราบรายละเอียด โดยในวันที่ 6 มิถุนายน จะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้ง คาดว่าจะมีความชัดเจนและสามารถหาแนวทางการดำเนินการที่ดีขึ้น

แพทยสภาส่งหนังสือขอตรวจแล้ว

นายองอาจ ยังระบุว่า หลังจากที่ ดีเอสไอ เสนอแนวทางให้เจ้าคณะปกครองจังหวัดมาเจรจากับ พระธัมมชโย นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการเข้าพบแต่อย่างใด แต่ทราบว่าได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกันบ้าง ส่วนกรณีที่แพทยสภาจะส่งคณะทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เข้ามาตรวจอาการอาพาธของพระธัมมชโยนั้น เบื้องต้นทราบว่า แพทยสภา ได้ส่งหนังสือขอเข้าตรวจแล้ว

วัดพระธรรมกายจัดพิธีปุพพเปตพลี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายจำนวนมาก ได้เดินทางมาพร้อมกันที่สภาธรรมกายสากล บริเวณหน้าบ้านคุณยาย ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อร่วมงานบุญพิธีปุพพเปตพลีครั้งที่ 50 ที่ทางวัดพระธรรมกายจัดขึ้น โดยคณะสงฆ์ได้สวดพระพุทธมนต์(บทธรรมนิยาม) พิธีถวายผ้าบังสุกุล โดยตัวแทนเจ้าภาพ และร่วมกันกล่าวคำถวายมะตะกะภัตราหาร(ปุพพเปตพลี) กระทั่งเป็นการเสร็จพิธี

มอบข้าวสารอาหารแห้งช่วย4จว.ใต้

ต่อมา เมื่อเวลา 14.30 น. ที่บริเวณสำนักงานมูลนิธิธรรมกาย (โถงช้าง) ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พระภาวนาธรรมวิเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นตัวแทนวัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกาย ได้มอบข้าวสารอาหารแห้งเพื่อส่งไปช่วยเหลือให้กำลังใจคณะสงฆ์ เจ้าหน้าตำรวจ-ทหาร ครูอาจารย์ และประชาชน ในพื้นที่ความไม่สงบ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีพระสุชยา มุนิเสฏฺโฐ ประธานสงฆ์ ศูนย์อบรมเยาวชนบ้านร่มเย็น พระจันทร์ ปยุตฺโต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เป็นตัวแทนรับมอบ

ส่งมอบครั้งนี้เกือบ30ตัน

นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า มอบข้าวสารอาหารแห้งในนามโครงการตักบาตรพระ 1 ล้านรูป 77 จังหวัดทุกวัดทั่วไทย ในนามของกัลยาณมิตร คือการนำข้าวสารอาหารแห้งมาใส่บาตรงานตักบาตรทั่วประเทศ ส่งผ่านมูลนิธิธรรมกายเพื่อส่งมอบไปถึงคณะสงฆ์ใน จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ในระยะเวลา 12 ปี มีการส่งมอบ 120 ครั้ง โดยวันนี้ได้การมอบข้าวสารอาหารแห้ง เกือบ 30 ตัน โดยมีคณะศิษย์ของหลวงปู่ชา มาร่วมด้วย เพื่อเป็นการให้กำลังใจกับพระภิกษุ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ตามปกติเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย