วธ.ตามเจอแล้ว 4 บุคคลในภาพมงคลถวายงานในหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 คนแรกเป็นอดีตผู้ช่วยผญบ.วัย 78 ปีจากสกลนคร เผยพระองค์ทรงถามเรื่องที่ดิน-ครอบครัว โดยรู้สึกปลาบปลื้มและบริจาคที่ดิน 18 ไร่ให้ศูนย์ภูพาน อีกรายเป็นพระอายุ 87 ปีในลำปาง เคยเป็นผญบ.ถวายรายงานโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเคียน คนต่อมาเป็นอดีต ผอ.โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่งัด-เชียงใหม่ เผยเคยถวายงานถึง 3 ครั้ง ภูมิใจได้รับคัดเลือกเป็นบุคคลในภาพมงคล สุดท้ายเป็นน.ร.หญิงที่เคยเข้าเฝ้าฯ ปัจจุบันเป็นครูสอนที่ประจวบฯ ด้านบิ๊กตู่เชิญชวนประดับธงตราสัญลักษณ์ปีแห่งมหามงคล
พบแล้ว4คน ในภาพมงคล ครูสาว ประจวบ สุดภูมิใจ
จากกรณีกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ดำเนินโครงการตามหาบุคคลในภาพแห่งความทรงจำรวม 7 ภาพ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 โดยคัดเลือกภาพแล้ว 7 ภาพ ได้แก่ ภาพที่ 1 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยัง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2520 ภาพที่ 2 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยังบ้านนานกเค้า จ.สกลนคร เพื่อเตรียมสร้างอ่างเก็บน้ำตาดไฮใหญ่ เมื่อพ.ศ.2522 ภาพที่ 3 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรแผนที่ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเคียน บ้านผาแมว ต.หัวเสือ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2524 ภาพที่ 4 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรความก้าว หน้าของโครงการแม่งัด ต.ช่อแล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2528
ภาพที่ 5 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรบ้านสุโบะปาเระ ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2530 ภาพที่ 6 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรเครื่องมือในโรงงานสกัดและแปรรูปน้ำมันปาล์ม ในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมโครงการศูนย์การศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2533 และภาพที่ 7 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรนิทรรศการต่างๆ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมโครงการชลประทานอันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งแรก อ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2544 นอกจากนี้ยังเชิญชวนประชาชนร่วมโพสต์และแชร์ภาพแห่งความทรงจำของตัวเอง เพื่อร่วมถวายความจงรักภักดีด้วย
สำหรับความคืบหน้าในการตามหาบุคคลในภาพแห่งความทรงจำทั้ง 7 ภาพ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ วธ.ได้ออกตามหาจนพบบุคคลในภาพมงคลแล้ว 4 ราย เริ่มจากนายส่อม วงศ์สีดา อายุ 78 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชาว จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบุคคลในภาพที่ 2 ขณะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยังบ้านนานกเค้า จ.สกลนคร เมื่อพ.ศ.2522
นายส่อมกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังบ้านนานกเค้า เพื่อเตรียมสร้างอ่างเก็บน้ำตาดไฮใหญ่ โดยท่านทรงถามเรื่องที่ดินมีงานกี่ไร่ ถามเรื่องครอบครัวมีพี่น้องกี่คน ซึ่งตนตอบว่าครอบครัวทำคนละ 10 ไร่ มีพี่น้อง 4 คน และท่านยังตรัสขอให้ดำเนินการต่อไป จึงรู้สึกปลาบปลื้มที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนใจในความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และตนก็ได้บริจาคที่ดินประมาณ 18 ไร่ให้กับศูนย์ภูพาน ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ส่วนบุคคลในภาพมงคลคนที่ 2 คือ พระบุญทา อายุ 87 ปี หรือนายบุญทา แสนดี พระลูกวัดสิงห์ชัย ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง เป็นบุคคลในภาพมงคลที่ 3 ขณะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรแผนที่ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเคียน ต.หัวเสือ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2524
พระบุญทาเผยถึงความตื้นตันใจว่า ตนทราบข่าวการตามหาบุคคลในภาพมงคลและมีภาพของตนอยู่ด้วย ก่อนมีเจ้าหน้าที่ วธ.ลำปางมาพบ สำหรับเหตุการณ์ในภาพขณะนั้นตนยังเป็นผู้ใหญ่บ้านดอนมูล หมู่ 3 ต.หัวเสือ อ.แม่ทะ ที่ตนชี้ไปในภาพพระองค์ทรงถามว่าสันเขื่อนอยู่ไหน จึงอธิบายให้ฟังและถามแค่ประโยคเดียว แต่รู้สึกปลื้มปีติและภูมิใจอย่างมากที่ได้เข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิด
"หลังจากพ้นจากหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านได้ตัดสินใจบวชอีกครั้ง โดยเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการบวชเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่วัดเกาะวาลุการาม อ.เมืองลำปาง เมื่อปี 2547" พระบุญทากล่าว
ขณะที่บุคคลในภาพมงคลอีกรายคือ นายปราโมทย์ อินสว่าง อดีต ผอ.โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่งัด จ.เชียงใหม่ อายุ 68 ปี เป็นบุคคลในภาพมงคลที่ 4 และเผยถึงความรู้สึกว่า มีโอกาสสนองงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 15 ธ.ค.2523 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ มาเป็นประทานเปิดเขื่อนห้วยกุ่ม ต.หนองโพนงาม อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ครั้งที่ 2 วันที่ 16 ม.ค.2529 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเขื่อนแม่งัดว่าเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2529 เสด็จฯ มาประกอบพิธีเปิดเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล
"รู้สึกดีใจมากที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นบุคคลในภาพ ตามโครงการตามหาบุคคลในภาพแห่งความทรงจำของ วธ. และภูมิใจที่มีโอกาสถวายรายงานพระองค์ ผมได้เล่าให้ครอบครัวฟังเสมอถึงโอกาสที่ได้ถวายงานพระองค์อย่างใกล้ชิด โดยรู้สึกปลาบปลื้มกับตัวเองและครอบครัว" นายปราโมทย์กล่าว
สำหรับบุคคลในภาพคนสุดท้าย คือ น.ส.วรรณ ศุภกิจถาวร อายุ 29 ปี ครูผู้ช่วยสอนดนตรีสากล ประจำโรงเรียนรัชตวิทยาคม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเป็นบุคคลในภาพที่ 7 ขณะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรนิทรรศการต่างๆ ที่อ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2544
น.ส.วรรณเล่าถึงความรู้สึกปลื้มปีติว่า เป็นเรื่องที่ปลาบปลื้มใจอย่างหาที่สุดมิได้ที่ตนและเพื่อนนักเรียนอีก 4-5 คน ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักเรียนในรายการศึกษาทัศน์ของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งเคยมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลายครั้ง โดยพระองค์ท่านให้ความเป็นกันเองกับนักเรียน ทรงสอนหลายอย่าง ซึ่งล้วนเป็นเรื่องใกล้ตัวเราทั้งสิ้น ทรงสอนเรื่องการเรียนการใช้ชีวิต เช่น ทุกอย่างเกิดจากลงมือทำ สำหรับตนมองว่าพระองค์ท่านทรงเป็นครูที่เป็นแบบอย่างที่ดี ทรงอธิบายเรื่องต่างๆ อย่างเข้าใจง่าย สอนให้เราเรียนรู้ที่จะรักและหวงแหนในสิ่งรอบตัวไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ ป่าไม้ วัฒนธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่เรามองข้ามกันไป โดยทุกวันนี้ได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสที่ทรงสอนนักเรียนมาปรับใช้และก้าวเดินตามรอยพระบาทของพระองค์ท่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วธ.จะแถลงข่าวโครงการตามหาบุคคลในภาพแห่งความ ทรงจำรวม 7 ภาพ ในวันที่ 8 มิ.ย.
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติว่า ปีนี้เป็นปีแห่งมหามงคล 3 วาระด้วยกัน คือเป็นปีแห่งเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ 70 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวาระที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 59-9 มิ.ย. 60 ขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล ร่วมใจกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ประดับธงตราสัญลักษณ์อย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ อีกงานคืองานครบรอบพระชนม พรรษา 84 พรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นปีมหามงคลแก่ประเทศและคนไทยทุกคนในช่วงปีนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 59-31 ธ.ค. 59 ขอให้ทุกคนร่วมกันทำความดีเป็น 2 เท่าให้กับประเทศ ให้กับ ตัวเองด้วย