ดีเอสไอนัดถก!ผ่าทางตันกล่อม”ธัมมชโย”มอบตัว
ความคืบหน้าการดำเนินคดี พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร หลังมีชื่อเป็นผู้รับเช็คบริจาคของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)กำหนดให้เข้ามอบตัวตามหมายจับของศาลอาญา ภายในวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่พระธัมมชโย ไม่ได้เดินทางไปตามกำหนดนัดหมายนั้น
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีที่ 27/2559 ได้หมายค้นวัดพระธรรมกาย และเตรียมเข้าจับกุมพระธัมมชโย ว่า ดีเอสไอยังไม่ได้เดินทางไปขออนุญาตศาลเพื่อขอหมายค้นวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยอัยการ และที่ปรึกษาคดีพิเศษในคดีดังกล่าว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเอกสาร เพื่อประกอบคำร้องในการขอหมายค้นต่อศาล อีกทั้งรอความพร้อมและการประเมินสถานการณ์
เตรียมส่ง“ฮ.”บินก่อนจู่โจม
รายงานจากดีเอสไอ ระบุว่า ดีเอสไอได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เพื่อขอความอนุเคราะห์สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ เพื่อบินสำรวจเส้นทางการเข้าออกวัดพระธรรมกาย เพื่อจะนำข้อมูลมาประกอบการวางกำลังหากมีการเข้าไปยังพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ตร.ให้ความร่วมมืออย่างดี ส่วนจะนำเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นสำรวจเส้นทางวัดพระธรรมกายวันใดนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากต้องดูช่วงวันเวลา และความเหมาะสม คาดว่าสัปดาห์นี้พนักงานสอบสวนจะพิจารณาการออกหมายค้น โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบพิกัดจุดค้น เพื่อความชัดเจนในการเก็บข้อมูลและหลักฐาน
ยันไม่ตัดน้ำ-ไฟ-อาหาร
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอยึดตามกฎหมายในการเข้าจับกุมพระธัมมชโย ไม่มีแผนตัดน้ำตัดไฟ หรือการส่งอาหาร ซึ่งขณะนี้มีการประสานแผนปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้พร้อมแล้ว แต่ไม่ได้ระบุวันเวลา ซึ่งต้องรอเวลาที่เหมาะสม คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยตั้งแต่ศาลอนุมัติหมายจับ อธิบดีดีเอสไอได้ตั้งชุดสืบสวนเข้าไปสืบสวนตามหมายจับ และมีหนังสือถึงเจ้าคณะปกครองทางสงฆ์ให้ช่วยแก้ปัญหา ขณะที่พนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวน ซึ่งมีผู้ต้องหารายอื่นๆด้วย เพื่อส่งฟ้องภายใน 2-3 สัปดาห์นี้
“สมเด็จช่วง”นิ่ง!กล่อมธัมมชโย
ส่วนความคืบหน้ากรณีดีเอสไอได้ส่งหนังสือถึงมหาเถรสมาคม(มส.) และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช รวมทั้งในฐานะพระอุปัชฌาย์พระธัมมชโย เพื่อแจ้งให้ทราบว่าพระธัมมชโยตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา และให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 และขอให้ช่วยประนีประนอมกับพระธัมมชโยนั้น
แหล่งข่าวใกล้ชิดสมเด็จช่วง กล่าวว่า สมเด็จช่วงทราบเรื่องที่ดีเอสไอจะขอให้สมเด็จช่วง ในฐานะพระอุปัชฌาย์โดยตรงของพระธัมมชโยมาเป็นผู้ประนีประนอมแล้ว แต่สมเด็จช่วงไม่ได้พูดหรือสั่งอะไรกับพระลูกวัด โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ได้เข้าพบพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และเจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เพื่อขอให้ช่วยเกลี้ยกล่อมพระธัมมชโยให้ออกมรับทราบข้อกล่าวหาแล้วเช่นกัน
ส่ง“ทัตตชีโว”ปรึกษาผ่าทางตัน
ด้านนายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการ พศ. กล่าวว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.) ปทุมธานี ว่า ดีเอสไอได้เข้าพบเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีแล้ว โดยดีเอสไอได้ชี้แจงรายละเอียดให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเข้าใจ พร้อมขอให้ช่วยประสานกับวัดพระธรรมกาย เพื่อขอพูดคุยเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีพร้อมให้ความร่วมมือในการประสานงานให้ได้พบกับทีมงานของวัดพระธรรมกาย
“เบื้องต้นได้รับรายงานเพิ่มเติมว่าได้มีการนัดหมายระหว่างดีเอสไอ กับพระราชภาวนาจารย์ หรือพระทัตตชีโว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายที่จะหาแนวทางออกร่วมกันแล้ว” นายพนม กล่าว
มส.พร้อมถกด่วน30พ.ค.นี้
ด้านนายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการ พศ. กล่าวว่า หนังสือฉบับดังกล่าวได้ส่งให้กับเลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชแล้ว ซึ่งยังไม่ทราบว่าได้ถวายรายงานต่อสมเด็จช่วงแล้วหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่มีคำตอบสมเด็จช่วงว่าจะตอบรับเจรจา
ส่วนนายสมชาย สุรชาตรี โฆษก พศ. กล่าวว่า ถ้าดีเอสไอทำหนังสือด่วนที่สุดมา มส.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมอย่างเร่งด่วนในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ส่วนจะมีมติอย่างไรนั้นคาดเดาไม่ได้ ส่วนเรื่องที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ไปยื่นหนังสือต่อเจ้าคณะหนใหญ่กลางเพื่อให้ตรวจสอบพระธัมมชโยในเรื่องอวดอุตริและรับของโจรนั้น สามารถทำได้ แต่วัดพระธรรมกายเป็นวัดราษฎร์ ตามขั้นตอนแล้วควรยื่นเรื่องไปที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีที่เป็นเจ้าคณะผู้ปกครองโดยตรง
จ่อแถลงผลสอบใบรับรองแพทย์
ด้าน พล.ท.นพ.ชุมพล เปี่ยมสมบูรณ์ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก กล่าวถึงการสอบสวนทางวินัย พ.ท.นพ.สิริพงศ์ พัฒนธนาวิสุทธิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี จ.ราชบุรี กรณีถูกกล่าวหาว่าออกใบรับรองแพทย์ให้พระธัมมชโย ไม่ถูกต้อง ว่า ขณะนี้การสอบสวนทางวินัยของมณฑลทหารบกที่ 16(มทบ.16) ได้เสร็จสิ้นแล้ว แต่เป็นการสอบเกี่ยวกับขั้นตอนของใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลที่หลุดออกมาภายนอก ทั้งที่ไม่มีประวัติรักษา คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะเปิดเผยผลการสอบสวนได้
แพทยสภาเล็งส่งหมอร่วมตรวจ
ส่วน นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวถึงกรณีลูกศิษย์วัดพระธรรมกายเรียกร้องให้ดีเอสไอรอผลการสอบอาการอาพาธพระธัมมชโยจากแพทยสภา ว่า ที่แพทยสภามีหนังสือขอความเห็นทั้งจากดีเอสไอ และวัดพระธรรมกาย โดยในส่วนของดีเอสไอเป็นเรื่องการออกใบรับรองแพทย์ ซึ่งต้องดูที่เจตนาว่ามีความพยายามทุจริตหรือไม่ เพราะตามหลักแพทย์ทุกคนสามารถออกใบรับรองแพทย์ได้ แต่กรณีนี้เป็นการนำใบรับรองแพทย์จากส่วนราชการออกมา
“ส่วนวัดพระธรรมกายเป็นเรื่องการส่งแพทย์ส่วนกลางไปตรวจ ซึ่งจะมีการหารือในวันที่ 2 มิถุนายน และจะขอความร่วมมือจากราชวิทยาลัย และตัวแทนโรงเรียนแพทย์เข้าไปร่วมดูเรื่องนี้ เพราะเกรงคำครหา โดยเน้นแพทย์อายุกรรม ศัลยกรรม” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
เพิ่ม“แบคโฮ”ใกล้กุฏิธัมมชโย
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่า เนื่องจากวันที่ 29 พฤษภาคม เป็นวันอาทิตย์จึงมีศิษยานุศิษย์เข้ามาปฏิบัติธรรมมากกว่าทุกวัน โดยที่หน้าวัดมีเจ้าหน้าที่วัด พร้อมตำรวจ สภ.คลองหลวง คอยตรวจตรารถทุกคันที่เข้าออก เพื่อป้องกันมือที่ 3 เข้ามาสร้างความไม่สงบ
ส่วนบริเวณโดยรอบวัด เจ้าหน้าที่ได้นำป้ายที่เคยติดให้กำลังใจพระธัมมชโยออกไป แล้วนำป้ายไวนิลขนาด 1.5x3 เมตร มีข้อความว่า “เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย” มาติดแทน ที่ประตู 1 , 4 , 7 และ 8 รวม 8 แผ่น ส่วนที่ประตู 1 ซึ่งเป็นทางเข้าอุโบสถ และใกล้อาคารดาวดึงส์ ที่พระธัมมชโยรักษาอาการอาพาธอยู่ เดิมมีรถเกรดเดอร์และรถแบคโฮจอดขวางประตูอยู่ ต่อมาชาวบ้านได้นำรถเกรดเดอร์ออกไป แล้วนำรถแบคโฮอีก 1 คัน มาจอดคู่กับรถแบคโฮคันเดิม
ทีมกฎหมายขวาง“โดรน”ขึ้นบิน
ขณะที่บรรยากาศโดยทั่วไปทุกประตูทางเข้า-ออก มีการเฝ้าสังเกตการณ์ของพนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.) พระภิกษุสงฆ์ และเจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกายอย่างเข้มงวด โดยบนอาคารสูงที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ไม่มีการทำงาน คาดว่าอาจจะเกิดจากการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด หลังมีข่าวว่าดีเอสไอจะนำอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน และเฮลิคอปเตอร์ มาบินสำรวจพิกัดในการจับกุมพระธัมมชโย
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักสื่อสารองค์กรของวัดพระธรรมกาย แจ้งว่า วันที่ 29 พฤษภาคม ไม่มีการแถลงของฝ่ายกฎหมาย ทีมคณะศิษย์ยานุศิษย์หรือทีมแพทย์ของพระธัมมชโย เนื่องจากเป็นวันหยุด ส่วนที่มีข่าวว่าดีเอสไอจะนำโดรนมาบินสำรวจความเคลื่อนไหวภายในวัดพระธรรมกายนั้น ทางวัดไม่อนุญาตให้มีการใช้โดรนภายในวัดอย่างเด็ดขาด
จัด“ปาร์ตี้ส้มตำ”ให้กำลังใจ
เวลา 11.00 น.วันเดียวกัน มีชาวบ้าน ต.คลองสาม จำนวนหนึ่ง นำโดย ดร.วีรศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) คลองสาม รวมตัวกันที่บริเวณด้านนอกประตู 1 เพื่อจัดงานตำส้มตำปาร์ตี้ โดยมีการตำส้มตำจากชาวบ้าน ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นกำลังใจให้พระธัมมชโย เช่น ส้มตำรักหลวงพ่อ , ส้มตำกตัญญู และก๋วยเตี๋ยวรักวัด รวมถึงมีการเขียนป้ายให้กำลังพระธัมมชโยด้วย
ดร.วีรศักดิ์ กล่าวว่า ชาวบ้านที่มาทั้งหมดเดินทางมาด้วยใจ ไม่มีการเกณฑ์มา ชาวบ้านที่มาส่วนใหญ่ได้รับความช่วยเหลือจากพระธัมมชโย เนื่องจากเมื่อตอนปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ พระธัมมชโยได้เมตตาชาวบ้านที่น้ำท่วมจนไม่มีที่อยู่ ให้เข้าไปพักพิงภายในวัด และนำข้าวปลาอาหารมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอีกด้วย
ส่วนนางวาสนา ชีวโอสถ ชาวบ้าน ต.คลองสาม กล่าวว่า ชาว ต.คลองสาม ได้พร้อมใจออกมาให้กำลังใจพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย เนื่องจากทางวัดเคยช่วยเหลือชาวบ้านไว้เมื่อครั้งน้ำท่วมปี 2554 ครั้งนี้ทางวัดและพระธัมมชโย ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ชวนกันออกมาให้กำลังใจ
ขอขอบคุณภาพจาก :bangkokbiznews